นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยระหว่างเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจอาเซียน(Bloomberg ASEAN Business Summit) ครั้งที่ 5 ว่าปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นตลาดขนาดใหญ่ในอาเซียน มีขนาดตลาดรวมหรือมาร์เก็ตแคปใหญ่เป็นอันดับ 2 มีสภาพคล่องอันดับ 1 มีการระดมทุนมากที่สุดในอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงต้องการผลักดันให้โครงการการลงทุนในอาเซียน โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆซึ่งปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียนยังต้องการอยู่มากสามารถใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนมากขึ้นผ่านความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ และภาครัฐ ทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มประเทศ CLMV(กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และจะส่งเสริมให้นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาใช้ตลาดทุนอาเซียนเป็นที่ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับการระดมทุนของตลาดทุนไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนที่มีความต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยมีการระดมทุนปีละประมาณ 250,000 ล้านบาทมาโดยตลอด และเป็นแหล่งระดมทุนใหญ่ที่สุดในอาเซียน 5 ปีติดต่อกัน ซึ่งมีความมั่นใจว่าในอนาคตตลาดทุนไทยจะเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นอนาคตในภูมิภาคยังมีความต้องการระดมทุนค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น CLMV ธุรกิจไทยทั้งที่ทำธุรกิจในไทยและทำธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทต่างประเทศมาระดมทุนทำธุรกิจในภูมิภาค จะเห็นระดมทุนเหล่านี้มากขึ้น
ส่วนความผันผวนของเศรษฐกิจโลกนับเป็นสิ่งท้าทาย เพราะปัจจุบันโลกเชื่อมโยงกันทั้งหมด ดังนั้น จะต้องหาทางใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือการลงทุนที่จะทำให้ตลาดเชื่อมโยงกันได้ ซึ่งเป็นโจทย์ที่พยายามทำและแก้ไขตลอดเริ่มมีโซลูชั่นหลายแนวทางแล้ว เช่น การจดทะเบียนข้ามตลาด หรือ CROSS LISTING ของผลิตภัณฑ์ต่างๆ นับเป็นเรื่องที่จะต้องพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น ดังนั้น ความร่วมมือของภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น โครงการลงทุนภาครัฐกำลังพยายามตกลงในระดับ CLMVและระดับอาเซียนจะช่วยให้เกิดการระดมทุนสะดวกขึ้น
นายภากร กล่าวว่า สำหรับรัฐบาลใหม่ซึ่งก็คือรัฐบาลที่ทำหน้าที่บริหารประเทศในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ได้เห็นผลการทำงานแล้ว และสิ่งที่เห็นได้ชัด คือ รัฐบาลพยายามให้เกิดการระดมทุน ทำให้การทำธุรกิจในประเทศไทยง่ายขึ้น ด้วยการปรับให้ระดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ The Ease of Doing Business ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันด้านการระดมทุนของกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือธุรกิจเอสเอ็มอี ให้ใช้ตลาดทุนมากขึ้น จึงมีความมั่นใจว่าด้วยนโยบายที่ต่อเนื่องของรัฐบาลจะทำให้ตลาดทุนไทยสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี