แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้ตัดสินใจชะลอแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมูลค่า 20,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงสมุทรปราการ-บางปู วงเงิน 13,700 ล้านบาท และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือส่วนต่อขยาย ช่วงคูคต-ลำลูกกา วงเงิน 11,900 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าอาจไม่มีเอกชนสนใจลงทุนเพราะเป็นเส้นทางชานเมืองที่มีผู้โดยสารไม่มากนัก

นอกจากนี้ ทราบว่า กทม.ต้องการรอให้รถไฟฟ้าสายใหม่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและรถไฟฟ้าสายสีส้ม เปิดบริการก่อนเพื่อประเมินทิศทางของผู้โดยสารอีกครั้งหนึ่ง

ในส่วนของ กระทรวงคมนาคม เองก็ได้มีการชะลอโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ด้วยเหตุผลเดียวกัน

ส่วนข้อเสนอจากหลายภาคส่วนเรื่องการให้รัฐบาลทบทวนต้นทุนค่าโดยสารรถไฟฟ้าใหม่ให้สอดคล้องกับบริบทการขยายตัวของเมืองหลวงเหมือนในต่างประเทศที่เจริญแล้ว มีค่ารถไฟฟ้าถูกกว่าไทยหลายเท่าตัว เนื่องจากต้นทุนการเดินรถไฟฟ้าของไทยคิดแค่เฉพาะต้นทุนประกอบการธุรกิจเดินรถพร้อมกำหนดราคาที่ตายตัวไว้ในสัญญาสัมปทาน

ขณะที่ในต่างประเทศมีการนำตัวเลขมูลค่าผลประโยชน์ด้านอื่นมาคิดคำนวณด้วยเช่น รายได้จากค่าธุรกิจสื่อภายในสถานี, รายได้เชิงพาณิชย์จากตัวสถานี และรายได้จากการพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทาง เป็นต้น ทำให้การคิดค่าโดยสารไม่สูงมาก