นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยถึงภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยครึ่งปีแรก ว่า ตลาดตราสารหนี้ไทยโดยรวมเติบโต 5.45%มีมูลค่าคงค้างรวมเพิ่มเป็น 13.49 ล้านล้านบาท จาก 12.79 ล้านล้านบาท เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาหรือเพิ่มขึ้นกว่า 7 แสนล้านบาท โดยตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวเพิ่ม 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผู้ออกรายใหญ่ 10 อันดับแรกมีมูลค่าการออกคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของมูลค่าการออกครึ่งแรกปี 2562 ทำให้คาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าการออกแตะ 1 ล้านล้านบาท ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น มีมูลค่าการออกลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 68%
ทั้งนี้ หลังจากช่วงกลางเดือนพฤษภาคม การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีความตึงเครียดมากขึ้นและการแสดงท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่า อาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงประมาณ 0.5% ในช่วงที่เหลือของปี ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อในตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่อง 2 เดือนสุดท้ายของครึ่งปีแรก ทำให้ยอดการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติครึ่งปีแรกเท่ากับ 3,213 ล้านบาท โดยเป็นการขายออกตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นและเข้าซื้อตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาว มีมูลค่าการลงทุนสะสมสุทธิของต่างชาติในตราสารหนี้ไทยครึ่งปีแรกเท่ากับ 989,206 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.3% ของมูลค่ารวมตลาดตราสารหนี้ไทย
อย่างไรก็ตาม จากการที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าและเศรษฐกิจชะลอตัว จะเป็นแรงกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นอาจขยับลงจากการปรับลดวงเงินการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะเริ่มเดือนกรกฎาคมและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวน่าจะปรับตัวลงในกรอบจำกัดจากปัจจัยเงินเฟ้อและการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่ยังคงทรงตัว เพื่อรอความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี