นายสุระชัย เอี่ยมวชิรกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกระทรวงคมนาคมได้อนุมัติให้ ขสมก.ปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่พบว่าสามารถเพิ่มรายได้ตามแผนฟื้นฟูฯประมาณ 10% เพิ่มจากเดิมที่มีรายได้ประมาณ 10-11 ล้านต่อวัน เป็นประมาณ 11-12 ล้านบาท
ส่วนการแก้ไขภาระขาดทุนและเป็นหนี้สะสมกว่า 100,000 ล้านบาทนั้น ขสมก.มีแผนลดต้นทุนด้วยการลดจำนวนพนักงานในรูปแบบเกษียณก่อนกำหนด หรือ Early Retire จำนวนทั้งสิ้น 5,000 คน ตามแผนที่กำหนดโดยแบ่งเป็น ลดพนักงานในปี 2563 จำนวน 600 คน ลดพนักงานในปี 2564 จำนวน 2,000 คนและในปี 2565 จำนวนมากกว่า 2,400 คน สำหรับพนักงานที่โดนปรับลดส่วนใหญ่เป็นพนักงานเก็บกระเป๋าและพนักงานห้องขายตั๋ว เนื่องจาก ขสมก.จะพัฒนาระบบรถเมล์ไร้เงินสดจึงไม่จำเป็นต้องใช้
ในส่วนกรณีบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน)(CHO) เตรียมดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หลังจากที่ ขสมก.บอกเลิกสัญญาโครงการติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกล่องหยอดเหรียญ(E-Ticket) โดยจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายประมาณ 300 ล้านบาทนั้น ทราบมาว่า ในขณะนี้เอกชนยังไม่ฟ้องร้องเข้ามา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ขสมก.ก็เสียประโยชน์เช่นกัน จึงต้องรอเข้าสู่กระบวนการศาล ในระหว่างนี้ ขสมก.หารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อหาแนวทางในการต่อสู้คดีควบคู่ไปกับการว่าจ้างที่ปรึกษาสำนักงานทางกฎหมายที่เชี่ยวชาญกฎหมายแพ่งและกฎหมายปกครองเพื่อเตรียมต่อสู้คดีกับเอกชนเรียบร้อยแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี