นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม มอบหมายนโยบายให้ ร.ฟ.ท. เร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบการจัดการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางรางตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 8 ปี พ.ศ.2558-2565 ปัจจุบันสามารถขับเคลื่อนการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ให้เกิดการก่อสร้างหลายเส้นทาง โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร
สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์สู่ภาคตะวันออก เชื่อมต่อไปยังโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างเป็นไปได้ด้วยดี และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตลอดเส้นทางภายในกรอบเวลาที่กำหนดเดือนกันยายน 2562
นายวรวุฒิกล่าวว่า เมื่อการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย เสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์และเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทางราง เช่น น้ำมัน ก๊าซแอลพีจี ปูนซีเมนต์ สินค้าบรรจุคอนเทนเนอร์ ระหว่างพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและท่าเรือแหลมฉบังกับพื้นที่บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างประหยัดต้นทุน อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งมาสู่ระบบราง และลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง,ลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
มีรายงานแจ้งว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการเร่งโครงการรถไฟทางคู่ รองรับการขนส่งโลจิสติกส์ โดยโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งนอกจากรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย แล้ว ยังมีทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
นอกจากนี้ การรถไฟฯยังมีแผนลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 2 ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 24,000 ล้านบาท รถไฟทางคู่ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา วงเงิน 57,000 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กิโลเมตร วงเงิน 8,000 ล้านบาท
ส่วนทางคู่สายอีสานนั้น ก่อนหน้านี้ ร.ฟ.ท. แจ้งว่า ในปีนี้จะเร่งรถไฟทางคู่ ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร วงเงิน 67,900 ล้านบาท ขณะที่อีกเส้นทางที่ ครม.อนุมัติไปแล้ว คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 85,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการอื่น เช่น รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,000 ล้านบาท และรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 26,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี