นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) แถลงผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการประจำเดือนมิถุนายน 2562 ว่า อยู่ที่ระดับ 94.5 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 95.9 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลทำให้การดำเนินนโยบายภาครัฐ และการใช้จ่ายงบประมาณชะลอตัว กระทบต่อการลงทุน และการบริโภคภายในประเทศ ประกอบกับเงินบาทแข็งค่ามากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ส่งผลด้านลบต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของภาคการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นหลัก ทำให้ประเทศผู้นำเข้าขอลดราคาสินค้า ซึ่งสอท.เห็นว่าค่าเงินบาทที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
“รัฐบาลใหม่ต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการบริโภคและการใช้จ่ายภายในประเทศ รวมทั้งเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 และควรออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ามากกว่าประเทศคู่ค้า เพื่อให้การส่งออกของไทยสามารถแข่งขันได้โดยควรพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.75% เพื่อชะลอเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ”นายสุพันธุ์ กล่าว
ส่วนการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ทั่วประเทศนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) อาจถึงขั้นเลิกกิจการเพราะสู้ค่าแรงขั้นต่ำไม่ไหว โดยกระบวนการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ถูกต้องนั้น จะต้องผ่านมติของคณะกรรมการไตรภาคี และในแต่ละพื้นที่จะมีค่าแรงไม่เท่ากันตามเศรษฐกิจของพื้นที่นั้นๆ และจะกำหนดเป็นราคาเดียวทั่วประเทศไม่ได้ และเห็นว่าหากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำผู้ที่จะได้รับประโยชน์คือแรงงานต่างด้าว ซึ่งปัจจุบันไทยมีแรงงานต่างด้าวถึง 3 ล้านคนจึงมีการขนเงินกลับประเทศตัวเอง ทำให้ค่าแรงส่วนนี้ไม่หมุนเวียนกลับเข้ามาสู่ระบบ
ทั้งนี้หากภาครัฐจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน ภาคเอกชนอยากเสนอให้รัฐช่วยนำส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมในส่วนที่หักกับลูกจ้าง5% ของเงินเดือนเพิ่มเติมจากที่รัฐสมทบอยู่แล้ว 2.75% ของเงินเดือน รวมรัฐสมทบให้ลูกจ้างเป็น 7.75% ของเงินเดือนเป็นกรณีชั่วคราวหรือจนกว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรืออาจสมทบเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี ส่วนที่นายจ้างสมทบอยู่แล้ว 5% ของเงินเดือนนั้นยังคงเดิม เพื่อช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าลูกจ้างทำให้มีกำลังซื้อ ในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แทนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนายจ้าง
“ภาคเอกชนเห็นว่าค่าแรงปัจจุบันของคนไทยส่วนใหญ่มีอัตราที่เหมาะสมอยู่แล้ว ควรผลักดันระบบการจ่ายค่าแรงตามทักษะ สนับสนุนให้มีการจ่ายค่าจ้างแรงงานตามทักษะฝีมือ โดยแต่ละอุตสาหกรรมและในแต่ละจังหวัดสามารถจ่ายค่าแรงที่แตกต่างกันได้ตามกลไกตลาด จึงไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าแรงโดยทันทีพร้อมกันทั่วประเทศแต่หากภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือ”นายสุพันธุ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี