นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย (บริษัทแม่ของบมจ.อัครา รีซอร์สเซส) ฟ้องร้องรัฐบาลไทย หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตาม ม.44 สั่งปิดเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตร จนทำให้ไทยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการว่า ยินดีให้ผู้บริหาร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส เข้ามาหารือ หากได้รับการติดต่อเข้ามา
“เรื่องนี้ตนมองว่า หากเจรจาร่วมกันได้ ก็ควรเจรจากัน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน” นายสุริยะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก คสช.ใช้อำนาจม.44 สั่งระงับการทำเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี จ.พิจิตร ของบมจ.อัครา รีซอร์สเซส ต้องยกเลิกการทำเหมืองดังกล่าวไป โดยทาง บมจ.อัคราฯ มองว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากไม่มีข้อพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากการทำเหมืองทอง
โดยที่ผ่านมานายเกร็ก ฟาวลิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ในขณะนั้น ได้เดินทางมาไทยเพื่อขอพบนางอรรชกา ศรีบุญเรือง สมัยเป็นรมว.อุตสาหกรรม แต่ได้มอบหมายให้นายสมชาย หาญหิรัญ ซึ่งขณะนั้นเป็นปลัดกระทรวงอุตฯเข้าพบแทน ต่อมาในช่วงนายอุตตม สาวนายน เป็น รมว.อุตสาหกรรมขอเข้าพบแต่ก็ไม่ได้เข้าพบเช่นกัน สุดท้ายจึงทำให้คิงส์เกตฯ ตัดสินใจฟ้องรัฐบาลไทย ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศไทย-ออสเตรเลีย (ทาฟต้า)
รายงานข่าวจากผู้ประกอบการเหมือง กล่าวว่า ประเมินตัวเลขการเสียโอกาสของเหมืองอัคราโดยวัดจากปริมาณสำรองแร่ทอง 8.9 แสนออนซ์ คิดเป็นวงเงินปริมาณ 37,020 ล้านบาท และเงิน 8.3 ล้านออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,984 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลิตได้ในช่วง 8-10 ปีข้างหน้า รวมมูลค่า 41,004 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี