เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ กทท. ช่วงระยะเวลา 7 เดือน ประจำปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561-เมษายน 2562)มีแนวโน้มขยายตัวไม่มาก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 สืบเนื่องจากการชะลอตัวของภาคการส่งออกของประเทศในภาวะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ยังคงยืดเยื้ออยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี การที่มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อาจส่งผลดีต่อการเกิดเสถียรภาพ ทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้นในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กทท. ได้คาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 จะมีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่ารวมที่ 9.790 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 3 จากปีที่ผ่านมา
โดยผลการดำเนินงานให้บริการเรือสินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ในช่วงระยะเวลา 7 เดือน ประจำปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561-
เมษายน 2562) โดยเปรียบเทียบกับปีก่อน สรุปดังนี้
ท่าเรือกรุงเทพ มีเรือเทียบท่า 2,181 เที่ยว เพิ่มขึ้น 20.63% สินค้าผ่านท่า 12.007 ล้านตัน ลดลง 5.94% สินค้าผ่านท่า 0.835 ล้าน ที.อี.ยู. ลดลง
4.09% ส่วนท่าเรือแหลมฉบัง มีเรือเทียบท่า 6,426 เที่ยว ลดลง 5.64% สินค้าผ่านท่า 53.084 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.01% ท่าเรือแหลมฉบัง มีตู้สินค้าผ่านท่า 4.761 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 3.14%
ขณะที่ ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน มีเรือเทียบท่า 1,549 เที่ยว ลดลง 32.06% สินค้าผ่านท่า 124,370 ตัน ลดลง 23.29% ท่าเรือเชียงของ มีเรือเทียบท่า 645 เที่ยว เพิ่มขึ้น 127.92% สินค้าผ่านท่า 36,076 ตัน ลดลง 6.41% ส่วน ท่าเรือระนอง มีเรือเทียบท่า 210 เที่ยว เพิ่มขึ้น 13.51% สินค้าผ่านท่า 91,833 ตัน เพิ่มขึ้น 83.38%
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยืนประมาณการส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปี 2562 ไว้ที่ 0.0% โดยมองว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บรรยากาศการค้าโลกแม้ว่าจะไม่ได้ดีขึ้น หลังสหรัฐฯ และจีนกลับเข้าสู่เส้นทางการเจรจาอีกครั้ง ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงที่เหลือของปี 2562 ได้แก่ ทิศทางการแข็งค่าของเงินบาท สภาพภูมิอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตร
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เสร็จแล้ว ในส่วนของตนจะแถลงนโยบายการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ทันที ทั้งการดูแลปากท้องประชาชน แนวทางประกันรายได้ แนวทางผลักดันการส่งออก และการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี