เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับทางกลุ่มตัวแทนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ว่าในการให้ดำเนินการบริษัทที่เปิดให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นโดยผิดกฎหมาย และทางกลุ่มรถจักรยานยนต์ฯจะเข้ามาเป็นคณะทำงานร่วมกับทางกรมการขนส่งทางบกในการพิจารณากฎหมายให้รอบคอบตรงกัน รวมถึงเชิญตัวแทนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต่างๆมาเข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการต่อไป และได้สั่งการให้ทางกรมการขนส่งทางบกประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องแอพพลิเคชั่นที่กระทำผิดกฎหมายว่าการดำเนินการของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นการดำเนินการถูกต้องหรือไม่และจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร ส่วนการจัดทำแอพพลิเคชั่นนั่นทางกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะก็ไม่ได้ขัดข้องและจะมีการยื่นความเห็นในการดำเนินการจัดทำแอพพลิเคชั่นที่จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการบังคับควบคุมของกรมการขนส่งทางบก
ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการหารือว่าจะมีการนำรายละเอียดมาดำเนินการโดยมีกรอบระยะเวลาในการจัดทำ 1 เดือนต้องเรียบร้อย ขณะที่ในเรื่องของสถานที่จุดจอดของวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะนั้นก็จะต้องมีการแก้ไขเพื่อไม่ให้ขัดกับระเบียบของกรุงเทพมหานครในการใช้ทางเท้า โดยได้สั่งให้กรมการขนส่งทางบกไปสำรวจพื้นที่สาธารณะเพื่อสร้างเป็นจุดจอดทั้งหมดของวินขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในกรุงเทพมหานครได้หมด รวมถึงได้มีการหารือเกี่ยวกับรัศมีที่จำกัดไม่ให้แอพพลิเคชั่นไปรับผู้โดยสารตัดหน้าวินขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะเบื้องต้นได้มีการให้ไปศึกษาระยะรัศมีให้ชัดเจนด้วย และในส่วนของใบขับขี่ดิจิทัลในกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะนั้นก็มีแผนที่จะต้องดำเนินการศึกษาด้วย
ทั้งนี้เรื่องการขอให้มีการจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะได้เสรีไม่ถูกจำกัดกรอบเวลา รวมถึงต้องการให้ทางกรมการขนส่งทางบกช่วยดำเนินการให้เกิดความสะดวกในการจัดการประชุมคณะกรรมการที่ได้มีการตกลงว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ระดับคือ ระดับพื้นที่ที่จะมี 5 ชุดตามเขตพื้นที่ของกรมการขนส่งในกรุงเทพมหานคร โดยมีรูปแบบตามเดิมที่เคยแต่งตั้งแต่ในส่วนของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฯแบ่งเป็นชุดละ 3 คน เพื่อสะท้อนปัญหาให้ทางคณะกรรมการชุดดังกล่าวแก้ไขปัญหาและจะมีการจัดประชุมทุกๆ 3 เดือน และคณะกรรมการที่กำกับภาพรวมที่มีอธิบดีกรมการขนส่งเป็นประธาน โดยจะมีการเพิ่มในส่วนของตัวแทนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งหมดอีก 5 คน และจะมีการประชุมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อกำหนดมาตรต่างๆเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาให้กับรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ขณะที่เรื่องการจัดทำเรื่องอัตราค่าโดยสารนั้นตัวแทนขับขี่รถจักรยานยนต์ฯ 5 คนที่อยู่ในคณะกรรมการที่กำกับภาพรวมจะต้องไปร่วมกับกรมการขนส่งทางบกในการทำการศึกษาในกรอบเวลา 1 เดือนเช่นกัน และได้เน้นย้ำว่าสิ่งที่ศึกษาว่านั้นต้องรอบคอบและจะไม่เป็นภาระจนทำให้เกิดคำถามสาธารณะตามมาว่ากำหนดมาเพื่อประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
ด้านนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดที่จะทำใบขับขี่ดิจิทัลให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและผู้ขับขี่แท็กซี่ในระบบ ซึ่งมีฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนอยู่แล้วโดยในอนาคตถ้าผลักดันสำเร็จจะมีการทำ QR Code แปะบนเสื้อของวินมอเตอร์ไซด์และแปะไว้ในรถแท็กซี่ โดยผู้โดยสารสามารถสแกนข้อมูลผู้ขับขี่แต่ละรายผ่านมือถือเพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมการขับขี่ ตลอดจนสามารถสแกนเพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ในทันทีแบบ real-time เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเอาผิดผู้ที่ชอบเอาเปรียบประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการกำกับดูแลผู้ขับขี่สาธารณะ ในส่วนของแนวคิดเรื่องการให้รางวัลนำจับสำหรับผู้ที่แจ้งข้อมูลพฤติกรรมความไม่เหมาะสมสำหรับผู้ขับขี่นั้น ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยต้องไปดูรายละเอียดว่าจะสามารถบรรจุไว้ใน พ.ร.บ.ขนส่งฉบับใหม่ได้หรือไม่เพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่
ทั้งนี้มาตรการแบบนี้ผู้ขับขี่สาธารณะย่อมไม่อยากให้นำมาใช้แต่อีกด้านก็เป็นความต้องการของประชาชนที่ต้องการความเข้มงวดเรื่องเอาเปรียบผู้โดยสารจึงต้องไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อนเสนอร่าง พ.ร.บ.ขนส่งฉบับใหม่เข้าสู่รัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ โดยทางทางกรุงเทพมหานครที่เปิดโอกาสให้ประชาชนช่วยกันร้องเรียนโดยการถ่ายภาพผู้ขับขี่บนทางเท้าเพื่อแลกกับรางวัลนำจับนั้นเป็นกฎหมายที่เพิ่งออกมาบังคับใช้หรือเป็นกฎหมายใหม่จึงสามารถระบุเงื่อนไขดังกล่าวลงไปในตัวบทได้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าปัจจุบันตัวบทลงโทษของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและผู้ขับขี่แท็กซี่ถูกบังคับใช้ภายใต้มาตรฐานเดียววัน กล่าวคือ เริ่มจากโทษปรับ หากพบกระทำผิดซ้ำก็จะมีการพักใบขับขี่พร้อมเข้าคอร์สอบรมการขับขี่กับกรมการขนส่งทางบกและหากกระทำผิดซ้ำซากก็จะมีการเพิกถอนใบขับขี่
รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า สำหรับบทลงโทษของกรมการขนส่งทางบกในฐานความผิด อาทิ ปฏิเสธผู้โดยสาร คิดราคาเกินอัตราที่กำหนด ทิ้งผู้โดยสารกลางทางและใช้มือถือขณะขับขี่ เป็นต้น หากทำผิดครั้งที่ 1 จะถูกปรับและอบรม ครั้งที่ 2 จะถูกปรับ พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน และอบรม ครั้งที่ 3 จะถูกปรับ พักใช้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และอบรม โดยโทษปรับนั้น จะปรับไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนบทลงโทษกรณี และหากกระทำผิดซ้ำซากจะพิจารณาเพิกถอนใบขับขี่สาธารณะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี