การบินไทยฯลุ้นครึ่งปีหลังอาจขาดทุนหรือมีกำไร หากเงินบาทอ่อนตัวลง เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มรายได้จากระบบออนไลน์มากขึ้น
13 สิงหาคม 2562 นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าความคืบหน้าของการจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ มูลค่า 1.56 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอขอดึงเรื่องกลับจากกระทรวงคมนาคม เพื่อนำมาปรับข้อมูลและนำเสนอให้คณะกรรมการฯพิจารณาใหม่ก่อนเสนอไปให้กับกระทรวงคมนาคมและนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป โดยไม่ต้องผ่านสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และมีแผนที่จะดำเนินการจะเช่าเครื่องบินเพิ่มจำนวน 3 ลำเพื่อรองรับเส้นทางยุโรป อาทิ บรัสเซล เวียนนา มิลาน เป็นต้น โดยเป็นการใช้เครื่องระยะสั้นประมาณ 6 ปี รวมถึงเตรียมหาจุดบินใหม่ได้แก่ เมืองแมนเชสเตอร์ ในอังกฤษ
ส่วนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้จะเปิดทำการบินเส้นทางกรุงเทพ-เซนได จึงคาดว่าเส้นทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ได้เพราะเส้นทางญี่ปุ่นเป็นเส้นทางที่การบินไทยมีความชำนาญ ขณะที่ความคืบหน้าการขายเครื่องบินเก่านั้นปัจจุบันมีเครื่องบินที่รอขายอีก 4 ลำ ได้แก่ A340-500 จำนวน 1 ลำ ,A300-600 จำนวน 1 ลำ และ Boeing 737-400 จำนวน 2 ลำ
ทั้งนี้เรื่อง TG Group นั้นทางการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ได้มีแผนในการเสริมเครือข่ายการบินเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ โดยสายการบินไทยสมายล์ได้เข้าร่วมเป็น Connecting Partner ของกลุ่มพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลแอนซ์เพื่อช่วยเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายเส้นทางบินในระดับภูมิภาค เตรียมรุกตลาดในภูมิภาคอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีการมอบนโยบายให้การบินไทยลดการขายตั๋วผ่านตัวแทนจำหน่าย (Agency) และเพิ่มช่องทางขายตั๋วทางดิจิทัล รวมถึงปรับสายการบินไทยสมายล์ให้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ (Lowcost) นั้น ทางการบินไทยก็มีแผนที่จะดำเนินการปรับสัดส่วนให้มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าในบางตลาดอย่างตลาดยุโรป สแกนดิเนเวีย ฯ ผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังนิยมจองตั๋วผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายและยังมีอิทธิพลมาก
ขณะที่ประเด็นของการปรับรูปแบบการให้บริการสายการบินไทยสมายล์เป็น Lowcost นั้น เนื่องจากตามแผนกลยุทธ์นั้นสายการบินไทยสมายล์ได้เข้าร่วมกับทางสตาร์อัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายสายการบินระดับพรีเมี่ยมแล้ว และไทยสมายล์ยังทำหน้าที่บินเส้นทางภายในประเทศแทนการบินไทยเพื่อที่การบินไทยจะให้บริการในเส้นทางที่มีระยะยาวได้มากขึ้น และสายการบินไทยสมายล์ก็มีประสิทธิภาพการใช้เครื่องบินเพิ่มขึ้นด้วย จึงจำเป็นที่อาจเป็นเพราะการให้ข้อมูลอาจยังไม่ชัดเจนครบถ้วนจึงจะต้องมีการเข้าไปชี้แจงข้อมูลอีกรอบ
อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังการบินไทยหากดำเนินการตามแผนและไม่มีปัญหาจากปัจจัยอื่นๆเค้ามาแทรกอีกก็คาดว่าจะขาดทุนน้อยลงหรืออาจจะกลับมามีกำไร โดยคาดว่าในช่วงปลายปีนี้หากค่าเงินบาทมีการอ่อนตัวลงและตั้งแต่เดือน ต.ค.จะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (Hi-season) แล้วก็คาดว่าสิ้นปีนี้การบินไทยจะมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยมากกว่า 79% ขึ้นไป
ส่วนกลยุทธ์การเพิ่มรายได้ โดยใช้ Digital Marketing ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงให้ Mobile Application สามารถเพิ่มรายได้ โดยการเสนอการขายผลิตภัณฑ์เสริม (Ancillary Product) เช่น น้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ ประกันภัยการเดินทาง รถรับส่งสนามบิน รถเช่า โรงแรม เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มภาษาต่างๆ และปรับเปลี่ยนหน้า Mobile Application ให้เข้าถึงผู้โดยสารในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการเพิ่มรายได้เสริมเช่น โครงการการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ eCommerce ซึ่งบริษัทฯ ได้คัดเลือกผู้จัดจำหน่าย (eCommerce Vendor) ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในด้านการดำเนินธุรกิจในลักษณะนี้กับสายการบินชั้นนำของโลกเรียบร้อยแล้วและคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี