นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังจากที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ของไทยเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรี อาร์เซ็ป สมัยพิเศษ ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่ารัฐมนตรี อาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศ ยืนยันความตั้งใจของผู้นำอาร์เซ็ปที่จะสรุปผลการเจรจาทั้งหมดให้ได้ในปีนี้ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากความตกลงอาร์เซ็ปให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ไทยมองเห็นความสำคัญของความตกลงอาร์เซ็ปในการเปิดโอกาสสู่ตลาดที่มีประชากรรวมกันมากถึง 3,500 ล้าน คิดเป็นประมาณ 48%ของประชากรโลก โดยความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้า บริการ และการลงทุนของไทย และผู้ประกอบการไทยสามารถสรรหาแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายทั้งเชิงคุณภาพและราคามากขึ้น ซึ่งจากเดิมที่สรรหาวัตถุดิบเพียง 10 ประเทศในอาเซียน ขยายเป็น 16 ประเทศ ทำให้ไทยเข้าไปอยู่ในเครือข่ายภาคการผลิต และการกระจายสินค้าของภูมิภาค
นอกจากนี้ความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ประสานกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า ส่งผลให้กฎเกณฑ์การค้าของประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปมีมาตรฐาน และสอดคล้องกันมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนของไทยตลอดจนภูมิภาคด้วย สำหรับด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช อาร์เซ็ปจะช่วยให้อาเซียนรวมถึงไทยเป็นศูนย์กลางของตลาดการค้าสินค้าเกษตร และเป็นโอกาสของไทยที่สามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปได้มากขึ้น รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารส่งออกที่สำคัญของไทยจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยได้มากขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา กรมได้เตรียมความพร้อมรองรับการบังคับใช้ความตกลงอาร์เซ็ปด้วยการจัดประชุมหารือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมและให้ข้อมูลความคืบหน้าการเจรจาตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ซึ่งหากการเจรจาสามารถปิดรอบได้ กรมมีแผนจะสรุปผลความตกลงอาร์เซ็ปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งจัดสัมมนาและลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ผลการเจรจาให้ผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ความตกลงอาร์เซ็ปถือเป็นความตกลงการค้าเสรีฉบับล่าสุดที่มีความทันสมัย ครอบคลุมมิติทางการค้ายุคใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเข้มแข็ง และสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของภูมิภาค หากความตกลงอาร์เซ็ปมีผลบังคับใช้ จะกลายเป็นความตกลงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปี 2561 ประเทศกลุ่มอาร์เซ็ป 16 ประเทศ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือ GDP รวมกว่า 27.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32.3% ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 30.9% ของมูลค่าการค้าโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี