นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุให้บริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการตลาด การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารจัดการความเสี่ยงในธุรกิจ การบริหารภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย การจัดทำแผนการเงิน การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และการสร้างโมเดลธุรกิจ เพื่อยกระดับให้ธุรกิจเป็นที่เชื่อถือและยอมรับจากผู้ใช้บริการในประเทศและระดับสากล รองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังเกิดขึ้นและจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ รวมถึงเป็นช่องทางสร้างโอกาสทางการตลาด และมูลค่าทางเศรษฐกิจและผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้าน Home Care
เบื้องต้นให้เร่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้มีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจเชิงลึกและเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการ โดยจัดอบรมหลักสูตร “ปฏิบัติการพิชิตธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ” ระหว่างวันที่ 20 - 22 สิงหาคม 2562 ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งมีหน่วยงานร่วมสนับสนุน คือ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย และสมาคมผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง นอกจากนี้ยังมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ องค์กรภาคเอกชนชั้นนำในด้านธุรกิจดูแลผู้สูงอายุมาร่วมถ่ายทอดความรู้
อย่างไรก็ตาม จากอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรผู้สูงอายุทั่วโลก รวมถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลงและอายุขัยของประชากรในประเทศเพิ่มขึ้น
ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางของคนสูงวัยจากทั่วโลกที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว พักผ่อน หรือใช้ชีวิตยามบั้นปลาย นับเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการสร้างธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการของประชากรผู้สูงอายุจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ดังนั้นผู้ประกอบการต้องตีโจทย์ให้แตกว่าธุรกิจหรือสินค้าประเภทไหนที่เจาะตลาดกลุ่มนี้ได้ เพื่อรองรับความต้องการจำนวนมาก
ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพการเติบโตระยะยาว ผู้ประกอบธุรกิจไทยควรเริ่มติดตามและทำความเข้าใจการเปลี่ยนไปของโครงสร้างและพฤติกรรมของสังคมผู้สูงอายุเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร การหากิจกรรมที่เหมาะสม การก่อสร้างที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องการคนดูแลช่วยเหลือ รวมถึงสถานที่ตั้งของธุรกิจควรจะตั้งอยู่ใกล้สถานพยาบาล เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางของผู้สูงอายุในกรณีฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ควรหาพันธมิตรทางธุรกิจ โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เข้ามาช่วยสนับสนุนการให้บริการด้านสุขภาพซึ่งเป็นจุดแข็งของไทย เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งการดูแลผู้สูงอายุเป็นงานบริการที่ต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจ ต้องมีความรู้ด้านการพยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาล ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทำให้บุคลากรด้านการดูแลผู้สูงอายุขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุจึงมีความน่าสนใจและยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในระยะยาว
ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย 800 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 273 ราย คิดเป็น 34.125% และบุคคลธรรมดา 527 ราย
คิดเป็น 65.875%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี