nn สื่อหลายฉบับนำเสนอข่าว“ธปท.โชว์ผลงานชิ้นโบแดง” สั่งปรับบริษัทเงินทุนศรีสวัสดิ์ จำกัด(มหาชน) 1.65 ล้านบาท โทษฐานเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเกินกว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทประกาศไว้...ตรวจสอบไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ ธปท. www.bot.or.th ก็พบว่าเป็นการสั่งลงโทษปรับบริษัทตาม มาตรา 46 พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 กรณีเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าบริการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเกินกว่าเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่บริษัทประกาศไว้ พร้อมทั้งแจกแจงรายละเอียดกฎหมายฉบับดังกล่าวเอาไว้อย่างละเอียด ครอบคลุมไปถึงไหนอย่างไร และธปท.ได้ดำเนินการปกปักรักษาผลประโยชน์ให้แก่ลูกหนี้รายย่อยของธุรกิจเหล่านี้อย่างไรบ้าง
แต่พอตรวจสอบไปดูเนื้อข่าวเชิงลึกแล้วก็ “สตั๊น” ไปหลายนาที...ตลาดสินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถจะรถยนต์ จักรยานยนต์ หรือรถทางการเกษตรต่างๆ ที่คลังและธปท.เพิ่งจะจับมาตีทะเบียนไปในช่วงไม่ถึง 3-4 ปีที่ผ่านมานั้น…หากรวมพอร์ตสินเชื่อทั้งระบบมีมากกว่า 200,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบธุรกิจทั้งรายเล็ก รายใหญ่และรายย่อยที่ธปท.จับมาตีทะเบียนกันเป็นร้อยหรือหลายร้อยราย แต่เหตุใด ธปท.ควานลงไปตรวจสอบและสั่งลงโทษได้แค่รายเดียว คิดเป็น 0.000825% ของพอร์ททั้งระบบเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเรื่องร้องเรียนหลายร้อยกรณี หลายสิบบริษัท...!! พระเจ้าช่วย กล้วยทอด !
เป็นไปได้อย่างไรตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทั้งระบบที่มีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการรายใหญ่เล็กนับร้อย ทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯหรือที่เป็นบริษัทในเครือธนาคารพาณิชย์ใหญ่ บางรายมีพอร์ตสินเชื่อมากกว่า 70,000-80,000 ล้านบาท...และที่“สตั๊นหนัก”เข้าไปอีกก็คือในรายที่เป็นข่าวครึกโครมอยู่ก่อนหน้า ผู้บริหารออกมายอมรับโต้งๆ ก่อนหน้าด้วยซ้ำว่ารีดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ แม้มีเอกสาร หลักฐานว่าทำธุรกิจ“สีเทา”
โขกลูกหนี้เลือดซิบถึงขั้นที่ลูกหนี้ไปร้องต่อ DSI รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรม บางกลุ่มถึงขั้นรวมตัวกันฟ้องร้องต่อศาลจนคดีท่วมศาล....แต่น่าแปลก ที่ระบบตรวจสอบ Market conduct ของ ธปท.ที่โอ่นักโอ่หนาว่าเป็นสุดยอดของการตรวจสอบบริษัทไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงินนอกลู่ทั้งหลายนั้นกลับตรวจสอบไม่พบ
จะให้เข้าใจว่ารายที่เหลือนั้น “โนพลอมแพลม”ปล่อยสินเชื่อรายย่อย จะ “พิโก้ ไฟแนนซ์ –นาโน ไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้ตามหลักเกณฑ์ที่ธปท.กำหนดไว้ทุกกระเบียดนิ้วหรืออย่างไร ?”…คงเพราะเหตุนี้ คล้อยหลังธปท.ตีปี๊บผลงานชิ้นโบแดงไปไม่ทันไร กลุ่มพิทักษ์สิทธิลูกหนี้ ที่เคยเป็นหัวหอกยื่นเรื่องร้องเรียนบริษัท “แคปปิตอล” รายใหญ่ทั้งหลายแหล่ที่โขกดอกเบี้ยสุดโหดเอากับลูกหนี้ ถึงได้ออกโรงแสดงความขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทยที่คืนความยุติธรรมให้ประชาชน พร้อมกับสอบถามความคืบหน้าไอ้จดหมายร้องเรียนของลูกหนี้ต่อบริษัทจำนำทะเบียนรถชื่อดัง 2-3 แห่งที่ส่งไปวังบางขุนพรหมนั้นมีความคืบหน้าในการตรวจสอบไปอย่างไรบ้างแล้ว..อย่างนี้เมื่อไหร่ลูกหนี้รากหญ้าที่หลวมตัวเอารถยนต์ เอาจักรยานยนต์ รถอีแต๋น รถไถนาไปจำนำเอาไว้กับนายทุนดอกโหดที่คลังและ ธปท.จับมาตีทะเบียนนั้น จะได้รับอานิสงส์คืนดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมแบบนี้บ้าง..????
แล้วอย่างนี้จะให้ทำใจยอมรับว่า “เป็นผลงานชิ้นโบแดงของแบงก์ชาติ” ได้อย่างไร...??????
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี