นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า แนวทางการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในขณะนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างประสานกระทรวงการคลัง เพื่อจัดทำต้นแบบมาตรการการแก้จนออกมา โดยช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยโมเดลการแก้จน จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และกลุ่มที่ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ขาดโอกาส ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป โดยมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่จะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง จะชัดเจนภายในเดือนกันยายน 2562 นี้ ก่อนเสนอที่ประชุม ครม. เพื่อจัดทำแพ็กเกจต่อไป
ในส่วนของกระทรวงพลังงาน จะดูแลในเรื่องค่าไฟ และค่าเชื้อเพลง ให้กับกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย กลุ่มคนรายได้น้อย และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ จากปัจจุบันบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)ได้ช่วยเหลือราคาก๊าซเอ็นจีวี สำหรับยานยนต์ ราคาพิเศษให้กับแท็กซี่ รถตู้โดยสาร รถโดยสารขนาดใหญ่ และอยู่ระหว่างการพิจารณช่วยเหลือครอบคลุมถึงกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย แต่การจะช่วยเหลือ รูปแบบใดนั้น ยังต้องศึกษาข้อมูลให้เหมาะสมอีกครั้ง จากที่ผ่านมากระทรวงพลังงาน เคยมีแนวคิดให้ส่วนลดน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ ราคาส่วนลดลิตรละ 3 บาท แต่ถูกยกเลิกไป หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง
“การช่วยเหลือครั้งนี้ เราไม่ได้มองเรื่องปัจจัยราคาน้ำมันที่ถูกหรือแพง แต่เราจะมองในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่เน้นเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เพราะมีสิทธิที่จะได้รับการดูแลสวัสดิการแห่งรัฐอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ” นายสนธิรัตน์กล่าว
รมว.พลังงานกล่าวอีกว่า กระทรวงยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ ปตท. เพื่อจัดทำแผนช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เช่น โรงงานต่างๆ ในด้านพลังงาน ให้ไปพิจารณาว่า แต่ละอุตสาหกรรมจะเข้าไปช่วยเหลือด้านการลดต้นทุนด้านพลังงาน เพื่อลดต้นทุนการผลิตเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยเป็นการขอความร่วมมือจากปตท. ไม่ได้ใช้งบประมาณจากภาครัฐ และพร้อมเปิดกว้างให้หน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลืออีกด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังมีนโยบาย 1 ชุมชน 1 พลังงานทดแทน 1 เมกะวัตต์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือชุมชน ให้เข้าถึงการผลิตไฟฟ้าใช้เอง และหากผลิตเหลือใช้สามารถขายเข้าระบบ สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ ซึ่งประเด็นนี้ได้หารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) อย่างใกล้ชิด เพื่อจัดหาพื้นที่ และสร้างชุมชนต้นแบบในการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน ก่อนที่จะขยายครอบคลุมไปสู่ชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป คาดว่า จะได้ข้อสรุปพื้นที่ภายในเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานเตรียมจัดสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการปลูกหญ้าเนเปียร์ หรือหญ้าเลี้ยงช้าง เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยจะเชิญทุกภาคส่วนเข้าร่วมหารือ ก่อนจะกลับมาฟื้นโครงการดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากหยุดการส่งเสริมตั้งแต่ปี 2557
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี