นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่27 สิงหาคมนี้จะหารือนอกรอบกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลังถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยจากปัญหาราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2562/63 ตกต่ำเพื่อช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิตและการชำระหนี้ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.)วงเงิน 2,085 ล้านบาท กับธนาคารกรุงไทย โดยแนวทางทั้งหมดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้เพื่อนำเสนอครม.เห็นชอบต่อไป
ก่อนหน้านี้ กองทุนได้กู้เงิน 15,045 ล้านบาทมาจ่ายช่วยเหลือเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิตปี 2558/59 และมีการชำระหนี้เงินต้นรวมดอกเบี้ยแล้ว 12,184 ล้านบาท จึงจะเจรจา 2 แนวทาง คือ 1.การขอรับสนับสนุนงบประมาณแผ่นดินเพื่อชำระหนี้ส่วนที่เหลือที่ครบการชำระในปี 2563 จำนวน 2,085 ล้านบาท หรือ 2.การขอเจรจากรุงไทยยืดหนี้ออกไป 3-5 ปี
ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2562/63 ที่จะเปิดหีบในปลายปีนี้สอน.ได้ประมาณการรายได้ที่เกษตรกรจะได้รับอยู่ที่ราว 837.77 บาทต่อตัน (เฉลี่ย 12 ซี.ซี.เอส.) ซึ่งมาตรการช่วยเหลืออาจจะพิจารณาในรูปแบบคล้ายคลึงกับฤดูการผลิตปี 2561/62ที่ครม.ครั้งนั้นได้อนุมัติจัดสรรงบกลางมาสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็นประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 6,500 ล้านบาท เพื่อซื้อปัจจัยการผลิตตันละ 50 บาทราย ละไม่เกิน 5,000 ตัน
นอกจากนี้ ได้เร่งรัดการปรับแก้พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาล พ.ศ. 2527 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้นำน้ำอ้อยไปผลิตสินค้าที่ไม่ใช่น้ำตาล รองรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีวภาพจากอ้อยและน้ำตาลทราย ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สู่การสร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงทั้งพลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ และชีวเภสัชภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวไร่อ้อยและอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายสู่ความเป็นสากลพร้อมทั้งสั่งให้ สอน. ศึกษาแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยในภาวะราคาอ้อยและราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ไม่ขัดต่อพันธกรณีภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO)
นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการ สอน.กล่าวว่าราคาอ้อยขั้นต้นฤดูผลิตปี 2562/63 เมื่อพิจารณาความหวาน10 ซี.ซี.เอส.ราคาน้ำตาลทรายรวมพรีเมียม 13 เซนต์ต่อปอนด์ และอัตราแลกเปลี่ยน 30.80 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะอยู่ที่ 680 บาทต่อตันแต่เมื่อประมาณการรายได้ต่างๆ รวมแล้วและค่าเฉลี่ยความหวานที่ 12 ซี.ซี.เอส.ราคาเกษตรกรชาวไร่อ้อยจะได้รับจะอยู่ราว 837.77 บาทต่อตัน อย่างไรก็ตาม ได้ประมาณการว่าฤดูหีบปี 2562/63 ปริมาณอ้อยผลิตได้จะเฉลี่ยที่ 120 ล้านตัน โดยการช่วยเหลือจะเป็นในลักษณะการสนับสนุนมาตรการเก็บเกี่ยวอ้อยสดเบื้องต้นอาจจะเป็นอ้อยสด 70% หรือราว 84 ล้านตัน โดยให้ความช่วยเหลือตันละ 75 บาท เป็นเงิน 6,300 ล้านบาท เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี