"พุทธิพงษ์"เร่งทดสอบ5G หวังขับเคลื่อนดิจิทัลยกระดับECC มั่นใจเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ชี้เป้าหมาย5Gไม่ใช่"กสทช."เพียงอย่างเดียว เชื่อปีหน้าหาก5Gไม่เกิดหืดขึ้นคอ เตรียมถก"กสทช."สัปดาห์หน้า หวังเคลียร์ปมเน็ตยูโซ่-กองทุนดีอี
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยภายในงาน IBM Think Thailand ว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับธุรกิจดิจิทัลเป็นอย่างมาก ประเทศไทยได้พูดถึงไทยแลนด์4.0 วันนี้เราอยู่ที่เท่าไหร่ ท่านต้องถามตัวเองว่า ต้องขับเคลื่อนอย่างไร รัฐบาลมีความตั้งในในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทในประเทศไทย ทำอย่างไรให้นักลงทุนต่างชาติและภาคเอกชนสนใจอยากลงทุนในเขตพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐิจภาคตะวันออก (ECC) ซึ่งในEEC มีโครงการดิจิทัลปาร์ค 700ไร่ ที่พัฒนาเป็นพื้นที่ให้บริษัทเอกชนมาร่วมลงทุน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน ในส่วนของกระทรวงดีอี มีอยู่ราว 30ไร่ โดยเปิดกว้างภาคเอกชนเข้าร่วมเป็นดิจิทัลวัลเลย์ เป็นศูนย์กลางทำกิจกรรมต่างๆ เชิญชวนผู้ประกอบการพบปะพูดคุยติดต่อประสานงานของภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี 5G ตนขอยืนยันว่าภายในปี 2020 ประเทศไทยต้องมี 5g แล้วได้ใช้ประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อรองรับการใช้บริการบนมือถืออย่างเดียว แต่ต้องเพื่อธุรกิจ อุตสาหกรรมต่างๆ โดยประเทศไทยเอาจริงเอาจังกับเทคโนโลยี ส่วนการพัฒนาดิจิทัลภาครัฐในการนำบิ้กดาต้า มาใช้กระทรวงดีอีตั้งเป้าภายในปีนี้ เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนแต่ละกลุ่ม อาทิ กลุ่มการท่องเที่ยว การให้ข้อมูลในการบริการแก่ ประชาชน , กลุ่มสาธารณสุข โรงพยาบาลทราบข้อมูลร่วมกันได้ , กลุ่มสังคมดิจิทัล , กลุ่มความมั่นคงดิจิทัล
"ผมยืนยันว่า บิ้กดาต้าได้ประโยชน์กับทุกคนแน่นอน ในส่วนของแรงงาน ต้องผลิตบุคลากรที่รองรับกับธุรกิจดิจิทัล ทางกระทรวง ได้คิดปัญหานี้ เราต้องการบุคลากร 40,000 คนใน1ปีข้างหน้าที่เกี่ยวกับธุรกิจดิจิทัล โดยเราได้เปิดศูนย์เรียน เติมความรู้ความสามารถที่นิคมอมตะ มีคนประมาน 200,000 คน ที่เกี่ยวกับดิจิทัล ให้ทักษะความรู้เพิ่มเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้นในปีหน้าอย่างน้อย ในเขต ECC จะพยายามให้นักลงทุนใช้ 5G ในการวางแผนธุรกิจเค้าได้ ตอนนี้มีการทดสอบ 5G แล้ว บริษัทเอกชนจะเข้ามามีการวางแผนการรองรับไว้ เรื่อง 5G โฟกัสเป็นจุดๆ ECC เป็นหัวใจหลักของเรา ดังนั้นวันนี้ทั้ง กสทช.และของกระทรวงเอง ก็ได้มีการทดลองทดสอบ 5G ที่น่าจะใช้ได้ใน ECC แล้ว ในปีหน้าถ้าเราทำได้ตามแผนที่วางไว้เบื้องต้น ใน ECC น่าจะมีความเป็นไปได้ ส่วนเรื่องการนำไปสู่การประมูลนั้นเป็นเรื่องของ กสทช. แต่ผมเชื่อว่าทุกคนวางแผนไว้ 2020 ตั้งนานแล้ว ว่าเราน่าจะยึดเวลากรอบเดิม ไม่เช่นนั้นการดึงนักลงทุน หรือการทำดิจิทัลพาร์ค เอาตรงนี้มาไม่ได้ ความเชื่อมั่นในการลงทุนของเราก็หมด เราโฟกัสเป็นจุดๆ ทั้งกสทช.ของกระทรวงเองก็เริ่มเทส 5G"
ทั้งนี้ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งภาคเอกชนและนักลงทุนต่างชาติ ภายในเดือนหน้า โครงการดิจิทัลวัลเล่ย์ จะมีการเริ่มก่อสร้าง อาคารแรกไม่น่าจะเกิน 300 วัน และในเดิน พ.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อไปพบผู้ประกอบการรายใหญ่ อาทิ ออราเคิล และ บริษัท กลุ่มทุนที่อยากจะย้ายฐานลงทุนที่จะมาลงทุนแถวภูมิภาคเอเชีย สิทธิประโยชน์ ที่บีโอไอต้องไปปรับเพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุน โดยกระทรวงจะไปดึงกลุ่มทุน ซึ่งมีอยู่แล้วประมาณ 100 กว่าบริษัท ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่มีความตั้งใจในการลงทุน และเรื่องนี้ ครม.เศรษฐกิจ ได้มีการพูดไปบ้างแล้ว ครม.ในวันศุกร์ที่จะถึง นายกฯ ได้สั่งการ ให้บีโอไอไปศึกษาดู เนื่องจากเรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว
นอกจากนี้ มองว่าอุปสรรคที่สำคัญในการเกิดเทคโนโลยี 5G สำคัญคือในเรื่อง การเปิดประมูล เงื่อนไข ตัวราคา อายุ เวลาไลเซ่น ซึ่งตนเชื่อว่า กสทช.มีการเตรียมความพร้อมในระดับหนึ่ง เป้าหมาย 2020 เป็นเป้าหมายที่พูดกันก่อนหน้านี้ ต้องยึดเป็นช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากไม่ใช่เรื่องแค่เป้าหมายของ 5G ของ กสทช.เพียงอย่างเดียว
"ปีหน้า หากประเทศไทยต้องการทำให้เกิด ECC ถ้าเราไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นในเรื่องของ 5G ได้จะเหนื่อยมาก เค้าก็จะย้ายไปลงทุนเพื่อนบ้านเราหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงงาน ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ เวลานักลงทุนไม่ได้วางแผนแค่ 1 - 2 ปี เค้าต้องตัดสินในที่จะมาลงทุน หากไม่เกิด 5G ผลกระทบถึงภาคการขยายเรื่องการลงทุนในมิติของดิจิทัลด้วย ในส่วนของดีอีเองก็ช่วยผลักดันให้ดิจิทัลฮับของอาเซียน มันต้องมียุทธศาสตร์ที่ไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าเกิดเราจะไปขายไปโปรโมท เชิญนักลงทุนมาลงทุน แต่แผนเรายังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่อง 5G มันมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแล้วงัย แต่ก่อนเป็นแค่เรื่องการใช้สอยธรรมดา อันนี้ก็เป็นหัวใจ" รมว.ดีอี กล่าว
อย่างไรก็ตาม การประมูล 5G ตนคิดว่า กสทช.น่าจะมีคำอธิบายที่ดี เชื่อว่าตอนนี้มีเรื่องของแม้กระทั่งช่องดาวเทียม ที่เกี่ยวพันกับการที่จะประมูล 5G และตนได้คุยกับ กสทช.อย่างไม่เป็นทางการ กสทช.กำลังหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้ช่องทางในการดำเนินการ 5G สะดวกขึ้น เช่น ไทยคม ช่องสัญญาณ ที่ต้องเช่าดาวเทียมต่างๆ คิดว่าตอนนี้มีแนวคิดที่จะบริหารจัดการให้ได้ประโยชน์หลายๆ ทาง แต่ละช่องคลื่นสัญญาณ ไม่ได้ใช้ครบถ้วนทั้งดาวเทียม การบริหารจัดการช่องต่างๆ เช่น ช่องสัญญาณที่ว่าง และขยับให้ได้ใช้ช่องสัญญาณเต็ม มีประโยชน์และสร้างรายได้ให้กับรัฐมากขึ้น
"ผมคงพูดได้ไม่เต็มที่ แต่รู้ว่าเค้ากำลังบริหารจัดการดาวเทียมอยู่ 5G สำคัญก็จริง ผมว่าระยะเวลาจากนี้ไป ภายในอาทิตย์ห้า จะเข้าพบและหารือกับ ประธาน กสทช.และเลขาธิการ กสทช.จะเห็นความร่วมมือระหว่างดีอี กับ กสทช.ที่จะเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทำงานร่วมกัน เรื่อง เน็ตประชารัฐ และ ยูโซ่เน็ต และกองทุนฯ ดีอี ที่กำลังมีปัญหาอยู่ รวมไปถึงแหล่งสำรวจ ผมจะไปทดลองทดสอบด้วยกันที่แรก น่าจะเป็นเชียงใหม่ พบท่านประธานบอร์ด กสทช.ขอไปคุยกันในรายละเอียด และตัว เลขาธิการ กสทช.ด้วย แม้กระทั้งกองทุนดีอีที่เป็นปัญหาอยู่ และได้ตั้งข้อสังเกตอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นปัญหาอยู่"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี