nn ต้องบอกเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนกับประเด็น“การสร้างองค์ความรู้นอกห้องเรียนให้กับเยาวชนไทย”...ตอนนี้ระบบการศึกษาทั่วโลกเขาไม่ได้เน้นแต่ความรู้ในตำราเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว...เยาวชนของประเทศชั้นนำทั่วโลกล้วนมีทักษะที่หลากหลาย...ทั้งทักษะทางวิชาการที่หลากหลายแขนง ทักษะการใช้ชีวิต หรือแม้แต่ทักษะในการประกอบอาชีพ...สำหรับประเทศไทยเองก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่ายากที่จะเปลี่ยนวิธีคิดหรือโครงสร้างทางการศึกษาด้วยระบบราชการ...จำเป็นต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากภาคเอกชนเป็นการนำร่อง...ล่าสุด “เศรษฐศาสตร์วันหยุด” เห็นข่าวเรื่อง...ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย ร่วมกับบริษัทซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด...ประสบความสำเร็จโมเดล “ร้านกาแฟสร้างอาชีพ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนนทบุรี” ก็ให้รู้สึกมีความหวัง....เพราะนี้คือการขยายโอกาสส่งเสริมอาชีพบาริสต้าให้กับเยาวชนที่บกพร่องทางการได้ยิน....ซึ่งมีนำร่อง 3 โรงเรียน และตั้งเป้าฝึกทักษะให้นักเรียนสามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ประกอบอาชีพจริงในอนาคต
โดยการขับเคลื่อนโครงการห้องเรียนกาแฟ ในเฟสที่ 1 เริ่มทดลองใน 3 โรงเรียนได้แก่ โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ กรุงเทพมหานคร, โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม และที่จะจัดขึ้นเร็วๆ นี้ ณ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร โดยการฝึกอบรมแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ การเรียนรู้ภาคทฤษฎี ทำความเข้าใจสายพันธุ์กาแฟ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงที่สองคือการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ ซึ่งนักเรียนทุกคนที่เข้ารับการอบรมจะได้ฝึกปฏิบัติจริงทั้งการชงเครื่องดื่มร้อน–เย็น หลากหลายเมนูตลอดจนการทำลาเต้อาร์ต ตกแต่งฟองนม โดยในแต่ละฐานมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้อย่างใกล้ชิด และมีคุณครูประจำฐานทำหน้าที่เป็นล่ามภาษามือ
นางอุณาวรรณ มั่นใจ รองผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า โครงการอบรม “ห้องเรียนกาแฟ” ถือเป็นโครงการที่ดีมาก สอดคล้องกับนโยบายการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ในการส่งเสริมโอกาสแห่งการเรียนรู้ ด้วยการเพิ่มทักษะตามความสามารถ ของนักเรียนกลุ่มพิเศษ เพราะจะช่วยทำให้เด็กๆ ได้เห็นคุณค่าของตัวเอง เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ จนไปสู่การประกอบอาชีพ ทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนเช่นเด็กทั่วไป ตลอดการอบรมเราได้เห็นภาพความมุ่งมั่นตั้งใจของเด็กๆ ทุกคนผ่านผลงานที่ปรากฏบนถ้วยกาแฟในแต่ละแก้วอย่างสวยงาม ซึ่งบางถ้วยหากไม่บอกว่าเป็นฝีมือน้องๆ ที่เพิ่งได้ลองทำครั้งแรก ก็คงถูกเหมารวมไปแล้วว่า เป็นฝีมือของบาริสต้ามืออาชีพไปได้เลย
ด้านนางสาวภัทราภร ประทุเกษร จูเราะห์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม เล่าด้วยความตื่นเต้นว่า ตนเองไม่มีความรู้และประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ตอนแรกก็กังวลว่าจะไม่สามารถทำตามพี่ๆ ที่มาอบรมให้ได้ แต่พอได้เรียนรู้ข้อมูลต่างๆ ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์กาแฟ รสชาติกาแฟ ตลอดจนการลงมือชงกาแฟ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและอยากลงมือทำมากขึ้น เนื่องจากตนเองมีความใฝ่ฝันอยากเปิดร้านกาแฟมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งคิดว่าจากการอบรมโครงการ “ห้องเรียนกาแฟ” แล้ว จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และรู้สึกอยากเรียนรู้ เพื่อต่อยอดการเปิดร้านกาแฟของตัวเองให้ได้
อีกหนึ่งเสียงของนายชยากร สาครเสถียร นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดนครปฐม เล่าต่อว่า การได้เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อตัวเองมาก และมองว่าอาชีพบาริสต้า ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่เด็กหูหนวกอย่างเขาสามารถทำได้ในอนาคต องค์ความรู้ที่ได้รับ จะติดตัวพวกเขาและเพื่อนไปอย่างแน่นอน หากมีโอกาสถ่ายทอดต่อยอดความรู้กับญาติๆได้ ก็จะทำ เพราะเชื่อว่า สิ่งที่ได้รับมีประโยชน์และถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า ที่ ซีพี ออลล์ ส่งมอบโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมให้กับเรา
ทั้งนี้ นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 24 ปี โดยหวังว่าการศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับเยาวชนทุกกลุ่ม สำหรับโครงการ “ห้องเรียนกาแฟ” เป็นการฝึกอบรมอาชีพบาริสต้า หลักสูตรระยะสั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะวิชาชีพบาริสต้า และมีทางเลือกในการประกอบวิชาชีพมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่การพึ่งพาตนเอง และสร้างคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น…
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี