“กสทช.” เตรียมยกคลื่นย่าน 5 GHz ป้อน “กองทัพบก” ทดแทนคลื่น 2600 MHz ส่วนชดเชยเงินเยียวยา “อสมท.” รอผลการศึกษา 3 สถาบัน

1 กันยายน 2562 พล.อ.ท.ดร. ธนพันธ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะคณะอนุกรรมการคลื่นความถี่และหัวหน้าคณะทำงานเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าว เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ มีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะทำงานฯ ที่ได้สรุปผลการตรวจสอบคลื่นความถี่ของกองทัพบก โดยคลื่นความถี่ที่จะให้กองทัพบกเสนอให้ทดแทนในย่าน 4400-5000 MHz 

ทั้งนี้ยังได้ให้ฝ่ายเลขานุการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ในการใช้คลื่นความถี่ย่าน 4400-5000 MHz  มาทดแทนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 MHz ที่จะเรียกคืนจากกรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก เช่นการทดแทนกันได้ในทางเทคนิคการใช้งานระบบชุดวิทยุ และอุปกรณ์ไร้สายความเร็วสูง และมีจำนวนเพียงพอต่อการจัดสรรเพื่อนำมาทดแทนหรือไม่ 

ขณะเดียวกันที่ประชุมยังขอผลการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาทั้ง 3 สถาบัน ในประเด็นการชดเชยเงินให้กับ บมจ.อสมท.  โดยให้ศึกษาในต่างประเทศได้มีการเรียกคืนคลื่นความถี่เช่นเดียวกันที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการหรือไม่ หากมีการเรียกคืนคลื่นในลักษณะเดียวกัน ขอให้หาข้อมูลเพิ่มเติมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนคลื่นความถี่ โดยขอให้ที่ปรึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์แนวทางในการจ่ายเงินชดเชยและจัดหาช่วงคลื่นความถี่ทดแทน และสรุปผลการศึกษาของลาดกระบัง รวมถึงแนวทางการเรียกคืนคลื่นของต่างประเทศจาก สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union :ITU) เพื่อนำเข้าสู่การประชุมคณะอนุฯ ในวันที่ 4 ก.ย. เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป 

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลการตรวจสอบการใช้งานของกองทัพบก มีการใช้งานคลื่นความถี่เพียง 4 สถานี ได้แก่ 1.มณฑลทหารบกที่ 42 อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา 2.ค่ายรัตนพล อำเภอคลองหอยโข่ง จ.สงขลา 3. กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ 4. ศูนย์โทรคมนาคม กองการสื่อสารทหาร กรมการทหารสื่อสาร ที่คลื่นย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) 

อย่างไรก็ตามและยังมีส่วนที่อยู่ในคลื่นย่าน 2600 MHz ที่เรียกคืน และอีกส่วนที่เป็นคลื่นที่อยู่นอกช่วงเรียกคืน สำหรับคลื่นที่อยู่ในช่วงมี 18 เส้นทางและอยู่นอกช่วง มี 6 เส้นทาง ถ้าอุปกรณ์ยังมีการใช้งานอยู่จริง จะไม่สามารถปรับจูนไปใช้คลื่นความถี่ย่านใหม่ได้ ดังนั้นต้องทดแทนทั้งหมดเพื่อนำไปทดแทนได้ ซึ่งเป็นย่านที่กองทัพบกขอมาคือ ย่าน 5 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ซึ่งสำนักการอนุญาตและกำกับวิทยุคมนาคมได้ให้ข้อมูลว่าคลื่นย่านดังกล่าวมีว่างเพียงพอที่จะมามาใช้ทดแทนหรือไม่ 

ขณะเดียวกัน อุปกรณ์ ไวแมกซ์ (WiMAX) ซึ่งเป็น สถานีฐาน (base station) ที่เคลื่อนที่ได้ย่าน 2600 MHz ที่กสทช.ได้อนุญาตให้ใช้งานเพื่อความมั่นคงคืนย่าน 2300 MHz ซึ่งความสามารถของเครื่องปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ที่จะปรับจูนใช้ย่าน 2300 MHz ได้ หากสามารถดำเนินการได้จะมีค่าใช้จ่ายในการปรับจูน ซึ่ง กสทช.มีคลื่นย่าน 2300 MHz จำนวน 30 MHz รองรับการใช้งานด้านความมั่นคงอยู่แล้ว สามารถจัดสรรทดแทนได้