นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัท หลักทรัพย์(บล.) ทิสโก้ กล่าวถึงภาพรวมตลาดหุ้นไทยในงานสัมมนา TISCO Monthly Guru Updates ว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตัวเลขชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ของประเทศสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยุโรป เริ่มส่งสัญญาณบ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และหันมาสนใจลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี มากกว่าพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปี กระทั่งเกิดปรากฏการณ์ “Inverted Yield Curve” (IYC) หรือพันธบัตรระยะยาวให้ผลตอบแทนต่ำกว่าพันธบัตรระยะสั้นขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนที่เศรษฐกิจจะเป็นขาลงหรือเศรษฐกิจถดถอยในระยะอีก 2 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวประเมินว่าหากโลกเกิดเศรษฐกิจถดถอยจริง บริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทยจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่ถึงขั้นปิดกิจการ เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ของไทยส่วนใหญ่ล้วนมีบทเรียนจากวิกฤติการเงินปี 2540 ดังนั้น เมื่อเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว จึงเพิ่มความระมัดระวังด้วยการเตรียมถือเงินสดไว้เพื่อลดผลกระทบ แต่ในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นอาจมีผลกระทบในเชิงจิตวิทยา ดังนั้น จึงแนะนำให้มองสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำติดไว้ในพอร์ต โดยมองเป้าหมายราคาทองคำปลายปี 2562 ไว้ที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และมีแนวรับที่ 1,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ส่วนความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกในช่วงนี้เริ่มตื่นตัวรับมือกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจ โดยในเดือนกันยายนจะมีการประชุมธนาคารกลางสำคัญๆ เช่น ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) รวมถึงธนาคารกลางจีน (PBOC) ที่คาดว่าจะจัดประชุมในระยะนี้เช่นกัน โดยประเด็นหลักที่น่าจับตาคือการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเพื่อหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกโดยตรงกับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า สภาพคล่องมีบทบาทมากต่อทิศทางตลาดหุ้นโลก ซึ่งในเดือนกันยายนธนาคารกลางสำคัญๆ จะจัดการประชุมพร้อมกัน ดังนั้น ในเดือนนี้คาดว่าหุ้นทั่วโลกจะปรับขึ้นรับข่าวดังกล่าว ขณะที่ตลาดหุ้นไทยในเดือนกันยายนคาดว่าจะแกว่งตัวขาขึ้นโดยมีกรอบแนวต้านที่ 1,690 จุด ขณะที่มีแนวรับที่ 1,635 จุด และกรณีที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 4/2562 มีโอกาสที่ในช่วงสิ้นปีดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 1,730 จุดได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีโอกาสมากที่จะเป็นเช่นนั้น” นายวิวัฒน์กล่าว
สำหรับหุ้นแนะนำในเดือนกันยายน แนะนำหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ มีรายได้และกำไรค่อนข้างมั่นคง แนะนำ AOT, BDMS และ EASTW ส่วนที่สองแนะนำเลือกลงทุนเป็นรายตัวในหุ้นที่คาดว่าจะมีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น CK, PLANB และ SABINA
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี