บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งข่าวว่า บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “The new Mercedes-Benz A-Class” เจเนอเรชันที่ 4 ยนตรกรรมอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับยังก์ เจเนอเรชัน ที่จะเข้ามาเติมเต็ม พอร์ตโฟลิโอของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ (Compact Car) ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบนำเสนอในรุ่น Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต และโฉบเฉี่ยวมากขึ้นด้วยดีไซน์ภายนอก และภายในที่ได้รับการออกแบบใหม่มีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด พร้อมให้สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้นจากเครื่องยนต์ใหม่ ขนาด 1.3 ลิตร ที่มีอัตราการปล่อยไอเสียที่ต่ำและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยม แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า
ซึ่งถือเป็นคอมแพ็คคาร์ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน พร้อมยกระดับความสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วย “เอ็มบียูเอ็กซ์” (MBUX) หรือ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยูสเซอร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Mercedes-Benz User Experience) ระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดที่ติดตั้งใน The new A-Class เป็นรุ่นแรกในกลุ่มรถยนต์คอมแพ็คคาร์ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic นำเสนอในราคา 2,490,000 บาท
สำหรับผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมพร้อมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศหรือในงาน “เมอร์เซเดส-เบนซ์ สตาร์เฟส”ที่จะเคลื่อนคาราวานไปทั่วประเทศจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2562 นี้
มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ครั้งแรกจากการเปิดตัว Mercedes-BenzA-Class ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปีพ.ศ. 2540 นับเป็นเวลากว่า 20 ปี ที่รถยนต์ตระกูล A-Class ได้รับการพัฒนาสมรรถนะในด้านต่างๆ รวมถึงการปรับรูปแบบดีไซน์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ตระกูล A-Class ได้รับการตอบรับที่ดีจากสาวกดาวสามแฉกจากทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
โดยในปีที่ผ่านมารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ถูกจำหน่ายทั่วโลกทุกๆ สี่คันจะเป็นรถยนต์ คอมแพ็คคาร์หนึ่งคัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในตลาดพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์ คือ การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ ของรถยนต์ การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในรถยนต์ ตลอดจนความสามารถในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมในด้านสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และมอบความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อย่างเหนือระดับ
ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงมีความมุ่งมั่นในการสานต่อความสำเร็จของรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ The new Mercedes-Benz A-Class เจเนอเรชันที่ 4 ในรุ่น Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic เจาะกลุ่มเป้าหมายยังก์เจเนอเรชัน เติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของรถยนต์กลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ปัจจุบันบริษัท นำเสนอใน 5 รุ่นย่อย ได้แก่ CLA 200 Urban, CLA 250 AMG Dynamic (Night Edition), CLA 250 AMG Dynamic (WhiteArt Edition), GLA 200 Urban และGLA 250 AMG Dynamic โดย Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตเร้าใจทั้งดีไซน์ภายนอก และภายในที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ตระกูลเอ-คลาสอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเพื่อประโยชน์ใช้สอยสูงสุด เครื่องยนต์ที่ทันสมัยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยม และมีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ชื่นชอบดิจิทัลไลฟ์สไตล์ และให้ความสำคัญกับการสร้างบาลานซ์ให้กับการใช้ชีวิต
มร.โรลันด์กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้รถยนต์ A-Class 4 ประตูนี้ ยังมาพร้อมกับระบบมัลติมีเดียใหม่ล่าสุดอย่าง MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ โดยรถยนต์รุ่นนี้ ถือเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ระบบ MBUX จะทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ทำให้การเชื่อมต่อระหว่าง ลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงการบริการอื่นๆของเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดายมากขึ้น อีกทั้งยังมีความสามารถใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นการจากทำงานร่วมกันของสองระบบนี้อีกมากมาย เช่น การสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับการสั่งการด้วยภาษาพูดอย่างเป็นธรรมชาติ (Natural speech recognition) ทำให้ระบบเข้าใจภาษาอังกฤษในหลายสำเนียงได้ เพียงแค่พูด คำว่า “Hey, Mercedes” เพื่อเริ่มต้นการทำงาน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาธิกับการขับรถได้มากขึ้นระหว่างการสั่งการระบบ เป็นต้น
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic
Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic มาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ (new design body language) เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเติมความโฉบเฉี่ยวให้กับชีวิตในเมืองใหญ่ เพราะนอกจากจะเป็นรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมรุ่นแรกในตลาดที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียง 1,332 ซีซี แต่ให้กำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ซึ่งถือเป็นคอมแพ็คคาร์ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ความเร็ว 1,620 รอบ/นาที มีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 119-124 กรัม/กม. และยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยมเฉลี่ยเพียง 5.2 ลิตร/100 กม. อีกด้วย
ดีไซน์ภายนอก ของ Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic นั้น สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ที่บริษัท ยึดถือมาตลอด โดยจะเน้นความเรียบง่าย และให้ความสำคัญกับผิวสัมผัส แต่ในขณะเดียวกันก็มีความร้อนแรง และน่าดึงดูดใจ ด้วยโครงสร้างภายนอกแบบ AMG ที่โดดเด่นด้วยการตัดทอนเส้นสาย และช่องว่างให้มีน้อยที่สุด ถือเป็นการผสมผสานระหว่างดีไซน์คลาสสิกของรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ และความปราดเปรียวเร้าใจได้อย่างลงตัว ด้านหน้าของตัวรถดูมีความล้ำสมัยสอดรับกับช่วงกระโปรงหน้าที่ลาดตัวต่ำ และทอดตัวยาวมีฝากระจังหน้าแบบ diamond radiator grille ที่ประกอบด้วยเส้นเดี่ยวแนวนอน และตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง ด้านกว้างของตัวรถถูกออกแบบมาให้ดูทรงพลังและเร้าอารมณ์สอดรับกับเส้นสายด้านข้างที่ทอดตัวอยู่บริเวณช่วงล่างของตัวถังช่วยให้ตัวรถดูกว้าง ส่วนกระจกมองข้างนั้นอยู่ในระนาบเดียวกับขอบล่างของกระจกห้องโดยสารพอดี
นอกจากนั้นยังมีล้อขนาด 18 นิ้ว แบบ 5 ก้านคู่และโคมไฟหน้าแบบ LED High Performance ที่มีความเพรียวบาง และกรอบเคลือบโครเมี่ยมที่ทำงานร่วมกับไฟส่องสว่างขณะขับขี่ตอนกลางวันแบบ LED ที่มีลักษณะคล้ายคบเพลิง
ดีไซน์ภายใน ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับโฉมใหม่ให้ดูทันสมัย สไตล์สปอร์ตแบบ AMG และกว้างขวางเพื่อประโยชน์ใช้สอยที่มากที่สุด โดยจะมีพื้นที่ว่างบริเวณช่วงไหล่ ข้อศอก และเหนือศีรษะมากกว่าค่าเฉลี่ยของรถยนต์ประเภทเดียวกัน รวมไปถึงการออกแบบห้องโดยสาร ตอนหลังให้เข้า-ออกได้ง่าย ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังมีปริมาตร 420 ลิตร ช่องกระโปรงหลัง มีขนาดกว้าง 950 มิลลิเมตร และมีระยะเส้นทแยงมุมจากตัวล็อกถึงขอบล่างของกระจกหลัง ถึง 462 มิลลิเมตร ช่วยให้ใส่หรือนำสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ออกได้อย่างสะดวก
พวงมาลัยของรถยนต์รุ่นนี้ตกแต่งแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มด้วยหนัง nappa เพื่อเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง ARTICO /DINAMICA microfibre ทั้งหมด โดยเบาะที่นั่งด้านคนขับจะมาพร้อมหน่วยบันทึกความจำ อีกทั้งเบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40รูปลักษณ์ของแผงหน้าปัดมีความล้ำสมัยด้วยฝาครอบทรงปีกนกที่ทอดยาวตั้งแต่ประตูหน้า ผ่านคอนโซลกลางอย่างไร้รอยต่อ เชื่อมไปจนถึงด้านบนของแผงหน้าปัดฝั่งผู้ขับขี่ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Widescreen ขนาด 10.25 นิ้วต่อกัน 2 หน้าจอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยหน้าจอทั้งสองจะอยู่ติดกันและมีลักษณะลอยตัวแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Widescreen ขนาดใหญ่เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ระบบสัมผัส (Touchscreen) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่นำหน้าจอระบบสัมผัสมาใช้ในรถยนต์คอมแพ็คคาร์ โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมและออกคำสั่งได้ด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ หรือใช้Touchpad ดีไซน์ใหม่ ส่วนช่องลมของเครื่องปรับอากาศนั้นได้รับการออกแบบโดยใช้กังหัน (turbine) เป็นต้นแบบ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ช่วยขับเน้นลักษณะสปอร์ตอีกอย่างหนึ่งของรถยนต์รุ่นนี้
นอกจากนั้น ส่วนล่างของคอนโซลกลางยังได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายปีกที่ดูแบนราบและไร้รอยต่อจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของห้องโดยสาร โดยมีระบบไฟส่องสว่างในห้องโดยสารที่มีให้เลือกถึง 64 สี มากกว่ารุ่นก่อนหน้า ถึง 5 เท่า ที่ช่วยขับเน้นเอกลักษณ์นี้โดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถผสมสีสันต่างๆ เพิ่มเป็นสีพิเศษได้อีก 10 สีสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี