nn สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)...ได้เปิดเผยรายงานภาวะทางสังคมของไทย ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2562....ซึ่งก็เกิดเป็นประเด็นข่าวต่อเนื่องกันมาตลอด 3-4 วันนี้....โดยเฉพาะตัวเลขของหนี้ครัวเรือนของไทย....ที่ขยายตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี’60...และตัวเลขล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 1 ของปี’62 ....หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% และคิดเป็นสัดส่วน 78.7% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส นับตั้งแต่ปี 2560...ไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากเกาหลีใต้ และอันดับ 11 ของโลก จาก 74 ประเทศ…ประเภทของหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้น...เป็นสินเชื่อที่มีกับธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล...เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อบัตรเครดิต...ฯลฯ
ที่บอกว่าเป็นข่าวต่อเนื่องก็เพราะว่า...การแถลงของ สศช.ในประเด็นหนี้ครัวเรือนมันไปแสลงหูของรัฐบาล...ก็เลยดาหน้ากันออกมาให้ความเห็น...อย่างกรณีของ....คุณลวรณ แสงสนิทผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง…ก็รีบออกมาชี้แจงว่า...หนี้ครัวเรือนยังไม่เป็นประเด็นที่น่ากังวล เนื่องจาก...หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่มีสินทรัพย์เป็นหลักประกัน เช่น ที่พักอาศัย รถยนต์หนี้เหล่านี้เป็นไปเพื่อการสะสมความมั่งคั่งในรูปสินทรัพย์และเพื่อการลงทุนเพื่อหารายได้...นอกจากนี้หนี้ครัวเรือนบางส่วนใช้เพื่อประกอบธุรกิจของครัวเรือน ซึ่งถือเป็นสินเชื่อที่สร้างรายได้ให้ครัวเรือน...
เช่นเดียวกันกับลูกพี่ใหญ่อย่าง ดร.อุตตม สาวนายน รมว.คลัง...ก็รีบชี้แจงสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยในขณะนี้ยังไม่รุนแรงจน ถึงขั้นต้องกังวล และมั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2562....เพราะหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากการ ทำธุรกิจ เป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ หลักประกัน ถือเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์รัฐบาลก็สนับสนุน ไม่ใช่หนี้ด้อยคุณภาพ...
คงจะเห็นกันแล้วใช่ไหมครับผู้อ่าน ว่าประเด็นนี้มันไม่เข้าหูรัฐบาลยิ่งนัก...ก็เลยต้องออกมาตอบโต้ในประเด็นว่าตัวเลขหนี้ที่มีนั้นมันไม่ใช่เรื่องต้องห่วง...โถๆๆๆๆ...คนคลังยุคนี้เป็นอะไรกันไปหมดแล้ว...ไม่กล้าที่จะพูดอะไรที่มีประโยชน์แบบตรงไปตรงมาเพื่อสังคมบ้างหรือไง...ทำไมต้องคอยระวังว่ารัฐบาลจะโกรธอย่างเดียว...ที่บอกว่าหนี้ครัวเรือนส่วนหนึ่งเป็นหนี้เพื่อการลงทุน(รถยนต์ สินเชื่อธุรกิจ)ซึ่งจะส่งผลดีตามมา....ถามจริงตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจมันดีจริงหรือไง...ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค..ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต....ที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงออกก็ปรับลดลงมาต่อเนื่อง บางตัวลดลงต่ำสุดในรอบหลายปี....ส่วนตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนสิงหาคมของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)...ก็ลดลงอีกเช่นกัน...และ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ค.2562 ของ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) หดตัวลง 3.23%....!! ไหนลองบอกสิว่าอะไรมันทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจมันดี...ทำให้เชื่อได้ว่าที่ก่อหนี้เพื่อการลงทุนไปแล้วมันจะสร้างรายได้กลับมา...จนทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้ที่มันโป่งพองอยู่ตอนนี้...????
ส่วนที่ รมว.คลัง...บอกว่าไม่ต้องห่วงจะไม่กระทบกับการขยายตัวของครึ่งปีหลัง...ก็พอเข้าใจได้ล่ะว่าเป็นนักการเมืองก็ต้องตอบแบบนี้...แต่ท่านครับ...ตอนนี้รัฐบาลบอกเองไม่ใช่หรือว่า...ส่งออกย่ำแย่ลงทุนนิ่ง ท่องเที่ยวทรงๆ ในขาลง...เลยต้องพึ่งการบริโภคในประเทศ...แต่ว่าตอนนี้หนี้ครัวเรือนมันใกล้แตะภาวะวิกฤติที่ระดับ 80% ต่อจีดีพี และมียังมีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง…ซ้ำการจ้างงานลดลง โดยเฉพาะภาคเกษตรที่ลดลงต่อเนื่อง แล้วยังมีเรื่องรายได้ภาคเกษตร ที่รับผลกระทบจากทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วมอีก...ขณะที่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจตามการหดตัวของภาคส่งออกและการท่องเที่ยว...ที่ส่งผลต่อการจ้างงานนอกภาคเกษตรอีก....ประชาชนคนไทยจะมีเงินมาจับจ่ายใช้สอยได้อีกหรือไง....จะเอาไปใช้หนี้ยังไม่มีปัญญาเลย...
“คนไทย”ที่มีอยู่ตอนนี้ก็มีแค่กลุ่มนายทุนเพียงแค่ 1% ของคนทั้งประเทศ...กับตัวท่าน รมว.คลัง และ เพื่อนรัฐมนตรีในครม.และ สว. ...อีก 200 กว่าคน...เท่านั้นกระมังที่ยังมีเงินแบบเหลือๆๆ....
รัฐบาล...แจกเงินผ่านโครงการประชารัฐสารพัดรูปแบบมาเท่าไหร่แล้วในรอบ 5 ปีมานี้...พูดกันตรงๆ ชีวิตคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้ดีขึ้นเลย...คนรวยอยู่แล้วก็รวยเอารวยเอา คนจนก็จนลงจนลงจนจะกินแกลบกินดิน....!! อย่ามาเสียเวลาโต้เถียงเบี่ยงเบนเรื่องตัวเลขหนี้ครัวเรือนเพิ่มไม่เพิ่ม อยู่เลย...กลับไปเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง แก้ลงไปให้ถึงไส้ในของปัญหา....เพื่อทำให้ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ...มีความมั่นคงทางรายได้...จะดีกว่านะ...nn
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี