เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้รัฐบาลจะออกมาตรการเสริมแกร่งเศรษฐกิจของประเทศอีกรอบ เสริมจากมาตรการช่วยเหลือประชาชนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับมาตรการชุดใหม่จะมุ่งสนับสนุนให้ภาคการเกษตรไทยสามารถเปลี่ยนแปลงและมูลค่าเพิ่มผลผลิตมากขึ้น จากปัจจุบันภาคการเกษตรของไทยใหญ่มาก แต่กลับมีมูลค่าผลผลิตต่อจีดีพีประเทศเพียงร้อยละ 3-4 เท่านั้น มาตรการจะอยู่ในรูปแบบของความร่วมมือระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สภาเกษตรกรและกองทุนหมู่บ้าน โดยมีกระทรวงการคลังเป็นฐานหลักในการเรียกประชุมและผลักดันมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเริ่มต้นขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตรอย่างจริงจัง จากเดิมเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และอุตสาหกรรมหนัก
“หากสามารถเปลี่ยนแปลงวิธี เพาะปลูก การผลิต การบริหารจัดการ ตลอดจนการร่วมกลุ่มของวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นได้ จะช่วยการเปลี่ยนแปลงภาคการผลิต การแปรรูปได้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่าการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือซึ่งกันและกัน ภาคการเกษตรเป็นภาคที่มีความสำคัญที่สุด แต่ผลผลิตมูลค่าต่ำ รัฐบาลจึงต้องการเปลี่ยนแปลงให้สามารถใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้น มีความรู้มากขึ้น ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เริ่มนำร่องแล้วจากการใช้ ธ.ก.ส.ส่งเสริมให้เกิดสมาร์ทฟาร์มเมอร์ หมายถึงเกษตรกรที่รู้จักใช้ความคิดใหม่ ๆ ในการเพิ่มและสร้างธุรกิจใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี