นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวเสวนาพิเศษหัวข้อ “แนวพระราชดำริ : ภูมิคุ้มกันโครงสร้าง เศรษฐกิจไทย” ในงานสัมมนา “ภูมิคุ้มกันสังคม วัคซีนธุรกิจยั่งยืน” ว่าการสร้างภูมิคุ้มกันที่สำคัญคือการทำให้คนไทยมีความหวังและเกิดความเชื่อมั่นหรือเกิดความมั่นใจในระยะยาวว่าจะมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต
นับเป็นโจทย์ใหญ่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี, ภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศที่มีความไม่แน่นอนซึ่งเป็นทั้งความท้าทาย และโอกาส 3 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ความท้าทายเปลี่ยนเป็นโอกาส และความกลัวเปลี่ยนเป็นความหวังได้ คือ 1.การทำให้คนไทยเก่งขึ้น และสามารถใช้ความเก่งได้อย่างเต็มศักยภาพ นั่นคือระบบการศึกษา โดยต้องทำให้คนไทยพัฒนาตัวเองได้อยู่ตลอดเวลา
2.การคำนึงถึงความยั่งยืน โดยไม่เบียดบังทรัพยากรหรือคุณภาพชีวิตของคนรุ่นต่อไปมาใช้ เช่น การขาดดุลการคลังในปัจจุบันจำนวนมากก็เสมือนเป็นการทำให้ภาระภาษีของคนรุ่นใหม่ถูกนำมาใช้มากเช่นกัน
3.การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีเพื่อให้สังคมมีความหวังมากกว่าความกลัว เพื่อให้คนไทยมีความมั่นใจต่อการดำเนินชีวิตในระยะยาว ซึ่งแต่ละรัฐบาลที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ในจุดนี้ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค, โครงการประกันภัยสินค้าเกษตร เป็นต้น
ธปท.เอง ได้สร้างภูมิคุ้มกันในเรื่องของหนี้ครัวเรือน หลังจากที่พบว่าแนวโน้มคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญลดลงในเรื่องของหนี้ ประกอบกับภาวะดอกเบี้ยต่ำจึงไม่มีแรงจูงใจให้ออมเงิน ซึ่ง ธปท.ได้กำกับดูแลสถาบันการเงินในการออกกฎเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างเหมาะสม รวมทั้งการตั้งคลินิกแก้หนี้ และล่าสุดธนาคารพาณิชย์ได้ร่วมลงนามในการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ ตลอดจนการให้ความรู้ทางการเงินเพื่อเป็นทักษะในการวางแผนชีวิตได้อย่างเหมาะสม
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า หลังจากที่สมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์ได้ร่วมลงนามแนวนโยบายการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบไปแล้ว ก็จะร่วมกันไม่สนับสนุนการสร้างหนี้โดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะจะลดโปรโมชั่น “เที่ยวก่อน จ่ายทีหลัง แบ่งจ่ายเบาๆ0% นาน 4 เดือน หรือผ่อนมือถือ 0% นาน 10 เดือน” เพราะไม่ต้องการให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยซึ่งจะอนุมัติสินเชื่อโดยดูวัตถุประสงค์ของการใช้เงินมากขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาลเชื่อว่า การคัดกรองน่าจะลดภาวะการก่อหนี้ครัวเรือนได้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สร้างภูมิคุ้มกัน 2 ด้าน คือ 1.การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการให้ความรู้ทางการเงินเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักการเก็บออม 2.ยกระดับการกำกับกิจการที่ดีเน้นย้ำให้บริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ทำให้มีความน่าเชื่อถือเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนและเป็นอันดับ 5 ในภูมิภาคเอเชีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี