"แฮกเกอร์จีน"เจาะข้อมูล"ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่"5ประเทศแถบอาเซียนและเอเชีย ไทยติดร่างแหด้วย "พุทธิพงษ์"ระบุไม่ใช่ครั้งแรก-เป็นภัยคุกคาม ชี้ยังตรวจสอบไม่พบ ย้ำเฝ้าระวัง24ชม.
รายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ว่า มีแฮกเกอร์ที่คาดว่าทำงานให้รัฐบาลจีนได้ทำการแฮกเข้าระบบของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายรายในอาเซียนและเอเซียกลาง ผ่านนักท่องเที่ยวอุยกูร์ที่เดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ โดยค้นพบโดยผู้เชียวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์สองรายที่ได้ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์
โดยเป้าหมายการแฮกครั้งนี้เน้นไปที่บุคคลที่มีความสำคัญในระดับสูง เช่น นักการทูต ผู้นำทางทหารที่เกี่ยวข้องในกิจการต่างประเทศ และให้ความสำคัญในการตรวจสอบติดตามการเคลื่อนไหวของชนชาติอุยกูร์อยู่แล้วโดยรัฐบาลปักกิ่ง และรัฐบาลปักกิ่งพยายามแสดงให้เห็นศักยภาพในเรื่อง cyberspace ที่จะติดตามพฤติกรรมชาวอุยกูร์แม้จะอยู่ภายนอกเขตประเทศก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ประเทศที่เป็นถูกแฮก ประกอบไปด้วย ตุรกี คาซักสถาน อินเดีย ไทย และมาเลเซีย โดยการยืนยันจากแหล่งข่าวสี่แหล่ง โดยประเทศเหล่านี้เป็นทางผ่านที่ชาวอุยกูร์ใช้เดินทางจากมณฑลซินเจียงมาที่ตุรกี โดยรัฐบาลปักกิ่งกล่าวมาตลอดว่านักท่องเที่ยวอุยกูร์เหล่านี้อาจเข้าไปร่วมกองกำลังทหารเพื่อการสู้รบในอิรัก และซีเรีย และมาตรการเหล่านี้มีไว้เพื่อสกัดกั้นการลุกลามของอิสลามหัวรุนแรง
จากรายงานข่าวรอยเตอร์ ระบุด้วยว่า ไม่สามารถระบุได้ว่ามีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใดบ้างที่ถูกแฮก โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐของอินเดียและประเทศไทยปฏิเสธที่จะให้ความเห้ฯ โดยผู้ทีมีส่วนรับผิดชอบในมาเลเซีย คาซักสถาน และตุรกีไม่สามรถให้ความเห็นได้ในทันทีที่มีการร้องขอ
ทั้งนี้ ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาบริษัท Volexity ในสหรัฐที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ได้ตีพิมพ์รายงานที่มีรายละเอียดว่าประเทศจีนมีความพยายามจะทำการแฮกเข้าเครื่องโทรศัพท์และอีเมลของชนชาวอุยกูร์ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยนักวิจัยที่กูเกิลเองเคยกล่วว่าเขาเคยตรวจพบการติดเชื้อในเครื่องไอโฟน หลายพันเครื่องจากแหล่งที่มาที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งแหล่งข่าวนี้เคยให้ข้อมูลกับ Forbes และ TechCrunch ว่าเป้าหมายอยู่ที่ชุนชนชาวอุยกูร์
ขณะเดียวกัน Fireeye บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของสหรัฐกล่าวว่าเคยติดตามพฤติกรรมของกลุ่มแฮกเกอร์ชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่มีการวางมัลแวร์เพื่อใช้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในละแวดอาเซ๊ยนเพื่อวางกับดักข้อมูล SMS ที่มีการส่งคีย์เวิร์ดที่มีความสำคัญเกี่ยวกับการก่อการร้าย ผู้บัญชาการทหารระดับสูงและรายชื่อนักการเมืองคนสำคัญของจีน
จากคำกล่าวของ Amit Serper ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบของบริษัท Cybereason เป็นบริษัทร่วมทุนของสหรัฐและอิสราเอล ได้กล่าวว่าแฮกเกอร์ชาวจีนมีเป้าที่ฐานข้อมูลรายละเอียดการโทร Call Detail Record (CDR) ของผู้ให้บริการโทรคมนาคม โดยทาง Amit จะมีรายงานตีพิมพ์เรื่องนี้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ การเข้าถึงฐานข้อมูล CDR จะทำให้ทราบว่าใครโทรหาใครเมื่อไหร่ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเจาะช่องหน้าต่างส่องดูชีวิตประจำวันของคนใดคนหนึ่ง การขโมยข้อมูล CDR จะทำให้ท่านสามรถรู้ได้ว่าใครเป็นคนสำคัญของคุณที่มีการติดต่อในแต่ละวันมากที่สุด สามารถบอกตำแหน่งขากเสาสัญญาณที่คุณใช้เวลามากที่สุดในแต่ละวันซึ่งหมายความว่าเขาจะรู้ตำแหน่งที่คุณมักจะไปอยู่เป็นประจำได้
ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการควบคุมและดูแลระบบอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงดีอีเอง และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งกระทรวงดีอีเองได้พยายามป้องกัน เรื่องการแฮกข้อมูลที่มาในหลายรูปแบบ นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของภัยคุกคาม ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ การป้องกันของกระทรวงดีอีจะเป็นการป้องกันในเชิงรุกเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งกระทรวงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ แต่ปัจจุบันภัยคุกคามมาในหลายรูปแบบ ที่ทันสมัยมากขึ้น เรามีการป้องกัน และเตรียมพร้อม ซึ่งกระทรวงดีอี ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอดทั้งเรื่องการตั้งศูนย์ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และออกกฏหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้การแฮกระบบข้อมูลของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอร์เรเตอร์) ในประเทศไทยตอนนี้ ยังไม่ได้ร้บผลกระทบตามที่เป็นข่าว แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดเป็นข้อมูลในเรื่องของประชาชน , ธนาคาร , ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเราต้องมาดูว่าเราจะเริ่มจากตรงไหน ตอนนี้เป็นเรื่องการเจาะข้อมูลในหน่วยงานราชการ ซึ่งเราก็พยายามป้องกัน และเร่งป้องกันแฮกเกอร์ที่มาในรูปแบบที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น" รมว.ดีอี กล่าว
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า ตอนนี้สำหรับประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดสำหรับกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ดี กสทช.ได้เฝ้าระวังอย่างระมัดระวัง และกำชับโอเปอเรเตอร์ในประเทศไทยให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
"ผมได้ยินมาตลอดข้อมูลการแฮก แต่ข้อมูลยังไม่ชัดเจน มีการพูดคุยกันว่าเป็นการวางโครงข่ายของ หัวเว่ย เราก็ต้องฟังข้อมูล แต่ก็ยังไม่ทราบว่าข้อมูลไหนเป็นข้อมูลจริงเท็จ ซึ่งถ้าเกิดเรามีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้ข้อมูลเพราะมันจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของแต่ละประเทศ" เลขาฯ กสทช.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี