เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แถลงผลงาน “99 วันอุตสาหกรรมทำแล้ว” ว่านับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม2562 นั้น ในช่วง 99 วัน ที่ผ่านมา ได้เร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมทุกระดับให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุน ได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนโดยเฉพาะ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เช่น Ease of Doing Businessซึ่งเป็นการส่งเสริมการเข้าทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น,การส่งเสริมการใช้สินค้าในประเทศ หรือ Made in Thailand เป็นต้น รวมถึงตอบโจทย์ของประชาชนในพื้นที่ เช่น การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
พร้อมกันนี้ได้มีการเชิญชวนและดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการต่างชาติ ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย อาทิ เวียดนาม ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เป็นต้น เพื่อหารือนโยบายส่งเสริมการลงทุน และเจรจาความร่วมมือด้านการส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมระหว่างกัน ซึ่งนักลงทุนตอบรับดี รวมทั้งหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม ดิจิทัล นวัตกรรม และการสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ Start up กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้จัดเตรียมพื้นที่ลงทุนได้แล้ว 6,466 ไร่ ตามนโยบาย แพ็กเกจ ไทยแลนด์ พลัส ของรัฐบาล
นายสุริยะ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม พร้อมเชิญชวนให้นักลงทุนจีน และฮ่องกงมาลงทุนหรือขยายการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC โดยเฉพาะในช่วงนักลงทุนจีนลดผลกระทบจากของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ
สำหรับการลงทุนในอีอีซี ถือว่ามีความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ คือท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ลงนามแล้ว ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และ เมืองการบินและขยายสนามบินอู่ตะเภา จะได้ผู้ชนะการประมูลเร็วๆ นี้ ปัจจัยเหล่านี้มั่นใจว่าปี 2563 จะเห็นการลงทุนจริงทั้งในส่วนของการลงทุนรองรับโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนจากอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังดูแลกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ทะลวงอุปสรรค ลดขั้นตอนให้กับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ
ให้เข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น โดยกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ อนุมัติวงเงิน 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1%ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี ช่วยเหลือ พร้อมลดขั้นตอนการขอสินเชื่อจากปกติที่ต้องใช้ระยะเวลา 3 เดือน เหลือเพียงไม่ถึง1 เดือนเท่านั้น ยื่นคำขอสินเชื่อได้ที่อุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศตั้งแต่ 15 พฤศจิกายน 2562 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 3,000 ล้านบาทให้เสร็จสิ้นในระยะเวลา 3 เดือน
ส่วนความคืบหน้ากรณีชาวไร่อ้อยเรียกร้องรัฐบาลกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2562/63 ให้ได้ระดับราคา1,000 บาทต่อตันนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา จะมีความชัดเจนถึงอัตราขั้นต้นที่ชาวไร่จะได้รับภายในเดือนพฤศจิกายนนี้เพราะจะเปิดหีบฤดูการผลิตปีนี้วันที่ 1ธันวาคม 2562 เบื้องต้นมีโอกาสได้ถึง 1,000บาทต่อตัน แต่เกษตรกรจะไม่ได้รับทั้งหมดรัฐบาลจะเน้นช่วยเหลือรายย่อยเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี