อาวดี้ ประเทศไทย ขนทัพยนตรกรรมหรูมาจัดกิจกรรม Audi Driving Experienceพร้อมให้สื่อมวลชน ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะ และเทคโนโลยีอันก้าวล้ำของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro นำโดย ตระกูล Audi TT, A1 Sportback, A6 Avant 2.0L และ A7 Sportback 2.0L
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “อาวดี้มุ่งให้สื่อมวลชนไทย ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในด้านการนำเสนอ และสื่อสารข้อมูลยนตรกรรม ได้มีโอกาสสัมผัสกับรถหลากรุ่น ส่วนหนึ่งเพื่อเข้าถึงวิสัยทัศน์ของทีมวิศวกรอาวดี้ที่สะท้อนผ่านการออกแบบที่ล้ำสมัย และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ รวมทั้งประสบการณ์แห่งสุดยอดสมรรถนะของยนตรกรรมอาวดี้ แต่ละรุ่น ที่เกิดจากผสานเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro โครงสร้างตัวถัง และเทคโนโลยีความปลอดภัย ระบบข้อมูลและความบันเทิงที่ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความมั่นใจมีความสะดวกสบาย และมีความเพลิดเพลิน ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางท่องเที่ยวที่แตกต่าง”
กิจกรรม Audi Driving Experienceใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา รวมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อให้สื่อมวลชนได้ร่วมพิสูจน์สมรรถนะ ประสิทธิภาพความยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน quattro และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ทุกเซ็กเมนต์ อาทิ สปอร์ตพรีเมียม ลักซ์ชัวรี่ซีดาน พรีเมียม SUV คอมแพคท์คาร์ และ Avant มียนตรกรรมมาให้ทดลองขับมากถึง 16 รุ่น จำนวนกว่า 40 คันโดยไฮไลท์ จะเป็น 3 รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก คือ The New Audi A1 Sportback, Audi A6 Avant 2.0L Black Edition และ Audi A7 Sportback รุ่น 2.0L และอีกหนึ่งความสำคัญที่สร้างความเร้าใจตลอดทริป คือ ฝูงตระกูล Audi TT ที่มาร่วมทริปครบทั้ง 3 รุ่น คือ Audi TT Coupé, Audi TT Roadster และ Audi TTS ส่วนกลุ่มตระกูล Q ซีรี่ส์ Audi Q8, Audi Q7 และ Audi Q5 รวมถึง Audi A4 Avant, Audi A5 Coupé, Audi A5 Sportback, Audi A7 Sportback 3.0L และ Audi A8L
สำหรับรุ่นที่ผู้เขียนได้นำมาขับ คือ Audi A7 Sportback 55 TFSI quattro S line โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงาม สปอร์ต หรูหรา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานความเป็นรถสปอร์ต คูเป้ และรถซีดานได้อย่างลงตัว มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร 2,995 ซีซี เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,000-6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,370-4,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ S tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อมติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ (BAS) 48V (Mild Hybrid : MHEV) และแบตเตอรี่ Lithium-ion เพื่อช่วยในการออกตัว และประหยัดน้ำมัน
นอกจากนี้ สื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ยังได้ทดสอบเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “quattro” ที่สร้างความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน และมีความปลอดภัย ซึ่งในรุ่น Q5, A6 Avant, A7 จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro with ultra technologyที่จะมีการประมวลผลอัตโนมัติ ในการถ่ายทอดกำลังหน้า-หลังเมื่อจำเป็น เพื่อลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง ส่วนในรุ่น A5, A8L, A4 Avant, Q8 และ Q7 จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro แบบกลไก หรือเรียกว่าSelf-locking Centre differential ที่ได้รับการพัฒนามาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ว่าเป็นหนึ่งในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุด สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้า-หลัง ได้อย่างอิสระ และมีการตอบสนองการปรับสัดส่วนกระจายแรงบิดอย่างฉับไวเพียงเสี้ยววินาที ขณะที่ผู้ที่ขับ Audi TT จะได้ประสบการณ์ของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “quattro” แบบอิเล็กโทรไฮดรอลิก มัลติเพลทคลัทช์ ที่จะจัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า ในการขับขี่ปกติ แต่หากอยู่ในบางสถานการณ์ที่ล้อหลัง ต้องการกำลังเพื่อเพิ่มการทรงตัว หรือเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ระบบจะส่งกำลังไปยังล้อหลังภายในเสี้ยววินาที ในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี