ปลายฝนต้นหนาว เข้าช่วงบททดสอบสารพัด สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” โดยเฉพาะใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นช่วงเดือน ธ.ค.นี้แล้ว ก็ยิ่งเห็นข่าวแซ่บๆ ล้วงลูก เขย่าโปรเจ็กต์ออกมาเป็นระลอกหวังผลทางการเมือง
หากนับผลงานที่คลอดออกมา ก็ถือว่า เป็นรูปธรรมไม่น้อย หากเทียบกับช่วงเวลาทำงานในกระทรวงเมกะโปรเจ็กต์แห่งนี้ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา สตาร์ทตั้งแต่วันแรกของการเข้ากระทรวงฯ เมื่อ 18 ก.ค.2562
ปัจจุบันทันด่วน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รับเข้ารับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศนโยบายอย่างชัดเจน เร่งด่วนภายใน 1 เดือน จะแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 รวมไปถึงปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล กำหนดให้ใช้เส้นทางได้ 00.00 – 04.00 น. ขณะเดียวกันจะกำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง เพื่อระบายการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น
เมื่อพลิกรีเช็คผลงาน พบว่า นโยบายเร่งด่วนดังกล่าว มีการขับเคลื่อนเป็นรูปธรรม เช่น โครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ที่เป็นโครงการปรับปรุงขยายคันทางเดิม จาก 10 ช่องจราจร เป็น 14 ช่องจราจร โซเชียลกระหน่ำยกให้เป็น “ถนนรถติด 7 ชั่วโคตร” หลังจากหัวหอกคมนาคมโหมลงพื้นที่ช่วงรับตำแหน่งใหม่ๆ จี้การแก้ไขบริหารพื้นที่ ล่าสุดก็พบว่า งานก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 37% ปัญหารถติดตอนนี้ลดลงเหลือไม่เกิน 200 เมตร จากเดิมที่เคยติดยาวสูงสุด 4 กิโลเมตร (กม.) และแนวโน้มคาดกันว่า ในเดือน ก.พ.นี้ งานก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์
สำหรับนโยบายเอาใจขาซิ่งแก้ปัญหารถติด กำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง ปัจจุบันได้ริเริ่มในเส้นทางหมายเลข 32 ช่วงช่วงบางปะอิน-แยกหลวงพ่อโอ 150 กม. ช่วง กม. 4 – กม. 50 ส่วนระยะทางที่เหลืออีกประมาณ 100 กม.ต้องรอการปรับปรุงจุดกลับรถ เปลี่ยนจากแบบเกาะกลางเป็นแบบทางลอดและเกือกม้า ขณะเดียวกันไอเดียนี้ ยังมีแผนขยายผล อยู่ระหว่างศึกษาทำเพิ่มเติมอีก 4 เส้นทาง คือ ถ.พหลโยธิน ถ.สุขุมวิท,ถ.มิตรภาพ และถ.เพชรเกษม
ขณะที่ปัญหาหนักอกหนักใจชาวบ้านร้านตลาด หนีไม่พ้น นโยบายปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ถูกขับเคลื่อนมาตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ออกเป็นข้อกำหนดจำกัดเวลารถบรรทุก 10 ล้อ วิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ออกเป็น 3 โซน คือ 1.ถนนนอกเขตพื้นที่วงแหวนรอบนอก ห้ามรถบรรทุก 10ล้อวิ่งระห่างเวลา 06.00 น.-21.00น.โดยจะวิ่งได้เฉพาะเวลา 21.00-06.00 น. 2.บนถนนวงแหวนรอบนอก/ทางพิเศษ ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อวิ่ง ระหว่างเวลา 06.00น.-21.00น. วิ่งได้เฉพาะเวลา 21.00-06.00 น. และ 3.ถนนในเขตพื้นที่วงแหวนรอบนอก ห้ามรถบรรทุกวิ่งตั้งแต่เวลา 04.00-24.00น. โดยจะอนุญาตให้วิ่งได้เพียง 4 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 24.00น.-04.00น.
นอกจากนี้ในช่วง 3 เดือน นโยบายของนายศักดิ์สยาม ที่ได้กรุยทางทำคู่ขนาน ที่เห็นโดดเด่นของพรรคภูมิใจไทย อย่างนโยบายสร้างทางเลือกใหม่ในการเลือกใช้ระบบขนส่ง โดยการให้บริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่น และกำหนดแนวทาง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (แท็กซี่) รูปแบบเดิม คืบหน้าล่าสุด กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้วางแนวทางการกำหนดให้รถยนต์ส่วนบุคคลมารับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน โดยดำเนินการร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ
อาทิ เช่น กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำรถยนต์ส่วนบุคคลในการรับจ้างผ่านแอปพลิเคชั่น พ.ศ. ... และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ การขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตประกอบการรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน พ.ศ. ... โดยจะมีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในเดือน พ.ย.นี้
เมื่อหันไปส่องนโยบายโดดเด่นอีกอย่างที่เป็นรูปธรรม ตัวชี้วัดได้ถึงความสำเร็จของการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน มาตรการเช็คคน เช็ครถ Checking Point ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ ตั้งจุดตรวจความพร้อมเข้มข้นทั่วประเทศทุกๆ 90 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดความพร้อมให้บริการประชาชน ตลอดการเดินทาง ผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 16 - 25 ก.ย.2562 ได้ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะไปแล้ว 135,139 คัน พบข้อบกพร่อง 619 คัน ได้ดำเนินการตักเตือน ออกใบสั่ง และเปรียบเทียบปรับเรียบร้อย
ในการดำเนินการดังกล่าว มาตรการตรวจอย่างเข้มข้น ทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง รายงานสถิติเทียบในช่วง 1-31 ส.ค.2562 ก่อนดำเนินการมาตรการ “เช็คคน เช็ครถ Checking Point” เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากรถโดยสารสาธารณะอัตราเฉลี่ยอยู่ที่1.07 รายต่อวัน ในช่วงเริ่มมาตรการ Checking Point ระหว่างวันที่ 2-25 ก.ย.2562 เกิดอุบัติเหตุลดลงอยู่ในอัตราเฉลี่ย 0.71 รายต่อวัน
อย่างไรก็ดีช่วงขยายมาตรการเต็มความสามารถ ระหว่างวันที่ 16-25 ก.ย.2562 เกิดอุบัติเหตุลดลงเหลือสถิติเพียง 0.40 รายต่อวัน ใกล้เป้าหมายของเจ้ากระทรวงที่กำหนด ลดอุบัติเหตุเป็นศูนย์
นั้นคือผลงาน 4 เดือน ที่โผลให้เห็นจะเพียงพอจะทำให้ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจสั่นคลอนเก้าอี้ “ศักดิ์สยาม” ได้หรือไม่อีกไม่กี่วันคงได้รู้กัน ..!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี