nn โลกแห่งศตรวรรษ ที่ 21 ได้ก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) ที่มีบทบาทสำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เรียกว่าเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องในการดำรงชีวิตของคนเราตลอดเวลา และท่ามกลางการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้บรรจุเรื่องนี้ไว้เป็นหนึ่งในแผนงานของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ว่าด้วยไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ที่มุ่งเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิมๆ ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ซึ่งนอกจากนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม การเกษตร การผลิต เรื่องของ “พลังงาน” ก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ เพราะมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
การที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้สร้างสรรค์ นวัตกรรมของตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน จำเป็นต้องเริ่มวางรากฐานตั้งแต่ระดับเยาวชน...ซึ่งขณะนี้ก็มีเวทีที่จุดประกายให้เยาวชนไทยได้มีโอกาส นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ การคิดค้นใหม่ๆ ด้านพลังงาน ที่น่าสนใจอยู่หลายเวที เช่นโครงการ “GPSC Young Social Innovator 2019” ที่ดำเนินมาเป็นปีที่ 2 โดยการสนับสนุนจาก บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSCแกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ภายใต้แนวคิด “พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” โดยเปิดรับสมัครนักเรียน นักศึกษาจากทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด ซึ่งปีนี้มีผู้สนใจส่งร่วมกว่า 200 โครงงาน และมีโครงงานที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกจำนวน 30 โครงงาน และคัดเหลือ 5 โครงงานรอบสุดท้าย ก่อนที่จะมีการตัดสินทีมผู้ชนะเลิศ ในช่วงต้นปี 2563
5 โครงการที่เข้ารอบสุดท้าย ล้วนแต่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เริ่มจาก โครงงานแรก “แคปซูลเก็บน้ำใต้ดิน”ของทีมต้นกล้าเปลี่ยนโลก จากโรงเรียนปราจีนกัลยาณี จ.ปราจีนบุรี ที่นำตัวแคปซูลที่เป็นวัสดุเหลือใช้จากในท้องถิ่นมาใช้ปลูกพืช เพียงขุดหลุมแล้วนำต้นกล้า วางเหนือแคปซูล รดน้ำ เพียงครั้งเดียวไม่ต้องกลับไปรดอีกเพราะแคปซูลจะดูแลความชุ่มชื้นจนต้นกล้าเติบโต โครงงานที่ 2Better life battery โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง ผลงาน “Modification of Li-S battery with irradiated activated carbon derived from Sticky Rice” หรือการเปลี่ยนข้าวเหนียวเป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยการนำเมล็ดข้าวเหนียวดิบมาบด อบในอุณหภูมิผ่านรังสีด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งมีอายุใช้งานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป 3-4 เท่า
โครงงานที่ 3 “เซลล์ไฟฟ้าแบคทีเรียเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำเสีย” จาก โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง ที่มุ่งให้ชุมชนผลิตกระแสไฟฟ้าได้เองจากน้ำเสีย โดยสร้างขั้วไฟฟ้าแบบใหม่ที่เรียกว่า L-cysteine บนอนุภาคนาโนเหล็กยึดติดกับกราฟีนออกไซด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจับแบคทีเรียในน้ำเสีย โครงงานที่ 4 “ปลอกเทียมห่อผลไม้” โรงเรียนพนมสารคาม “พนมอดุลวิทยา” จ.ฉะเชิงเทรา ที่คิดค้นวิธีป้องกันแมลงกัดกินผลไม้และลดการใช้กระดาษที่ย่อยสลายไม่ได้ในการหุ้มผลไม้ด้วยการนำเส้นใยจากหญ้ามาปั่นแล้วตากแห้ง จากนั้นตัดให้เป็นรูปทรงตามวัตถุที่ใช้งานพร้อมกับชุบน้ำมันหอมระเหย เพื่อป้องกันแมลงแล้วเคลือบน้ำยางนำเส้นกล้วยมาติดกับปลอกเพื่อเป็นหูหิ้ว
โครงงานที่ 5 “การพัฒนาไฮโดรเจลจากไคโตซานและพอลิไวนิลแอลกอฮอล์ สำหรับอนุบาลเมล็ดข้าวพันธุ์ จาก โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เพื่อช่วยให้ชาวนาที่ไม่สามารถนำข้าวเก่ามาเพาะปลูกได้ ด้วยวิธีการหาอัตราส่วนที่เหมาะสมด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ จากนั้นนำสารผสมมาขึ้นรูปเป็นไฮโดรเจล ต่อจากนั้นนำมาอนุบาลข้าวเก่าตั้งระยะเมล็ดจนถึงระยะการเป็นต้นกล้า
โครงการเหล่านี้ สามารถพัฒนาและมีโอกาสนำไปใช้ในพื้นที่ที่มีปัญหาได้จริง รวมถึงสามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการออกสู่ท้องตลาดในเชิงพาณิชย์ ที่สำคัญผลงานเหล่านี้ต้องไม่ถูกทิ้งไว้บนหิ้ง ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์และการบริการที่เกิดขึ้นจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี