nn สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี....ออกอาการพออกพอใจเพราะ...ที่เห็นตัวเลข จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 2.4% และทั้งปีคาดว่าขยายตัว 2.6%....และยังคุยทับ...แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวมาก แต่เศรษฐกิจไทยยังทรงตัว และยังมีโอกาสในช่วงปลายปีทุกปีตัวเลขการส่งออกอาจขยับขึ้นมาบ้าง…หลัง สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ....แถลงว่าข่าวว่า...ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ไตรมาส 3 ปี 2562 ขยายตัว 2.4% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ปี 2562 ที่จีดีพีขยายตัว 2.3% ส่งผลให้จีดีพี 9 เดือน ขยายตัวได้ 2.5% ….โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ....โดยการส่งออกไตรมาส 3 ทรงตัว หรือไม่ขยายตัวเลย ดีขึ้นจากไตรมาส 2 ที่การส่งออกหดตัว 4.2% ...
เศรษฐศาสตร์วันหยุด...นึกค้านอยู่ในใจที่เห็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลออกอาการแบบนั้น...เพราะไส้ในจริงๆ...จะพบว่าแม้ภาพรวมการส่งออกสินค้าจะหดตัวน้อยลง แต่เกิดจากการส่งออกทองเป็นหลักซึ่งไม่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าที่แท้จริงไตรมาส 3 หดหัวที่ -0.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าการหดตัวจะชะลอจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวถึง -5.8% แต่สาเหตุของการหดตัวน้อยลงของภาคส่งออก....เกิดจากการส่งออกทองคำ (ไม่ได้ขึ้นรูป) ในระดับสูง (จากตัวเลขกระทรวงพาณิชย์ มูลค่าการส่งออกทองในไตรมาส 3 ขยายตัวมากถึง 302.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้การส่งออกในภาพรวมที่หดตัว -0.5% หดตัวมากขึ้นเป็น -4.5% เมื่อหักผลของการส่งออกทอง)
ทั้งนี้การส่งออกนำเข้าทองไม่ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เนื่องจากไม่ได้มีการสร้างมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นการส่งออกทองที่เพิ่มมากขึ้น จะถูกหักในส่วนของการเปลี่ยนแปลงสินค้าคงเหลือ (change in inventories) ซึ่งมีผลทำให้ส่วนเปลี่ยนแปลงสินค้าคงเหลือมี contribution to growth เป็นลบมากถึง 4.6 percentage points ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา
ส่วนที่ โฆษกกระทรวงการคลัง...บอกว่าภาคการบริโภคกำลังฟื้นตัว...เพราะดูได้จากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (การซื้อ-การขาย)ปรับตัวเพิ่มขึ้น...สงสัยรัฐบาลจะลืมไป...ว่ารัฐเทกระจาดเงินเข้าระบบ 1.3 หมื่นล้านบาท...ผ่านโครงการ ชิม ช้อป ใช้ เฟส1-2....มันไม่ได้เกิดจากแรงงานซื้อที่แท้จริงเพราะคนไทยมีรายได้มากขึ้น....
ถ้ารัฐบาลแย้งว่าแล้วอะไรที่บอกว่าคนไทยไม่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น....ก็ต้องบอกว่าอย่างนี้ว่าข้อมูลจากหลายสำนักวิชาการ (ที่ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติรัฐบาล)...ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า...การลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะในหมวดยานยนต์มีการชะลอตัวตามยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์....การก่อสร้างก็มีการขยายตัวชะลอลง เช่น ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้านการผลิต (Production Approach) การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมีการหดตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกเช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องจักร ยาง และพลาสติก และการผลิตรถยนต์...ส่วน สาขาการขายส่งและการขายปลีกขยายตัวชะลอลง ตามการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและการนำเข้าสินค้าบริโภค ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนชะลอลงในสินค้าทุกประเภท ทั้งสินค้าคงทน กึ่งคงทน และไม่คงทน...ฯลฯ
สิ่งที่รัฐบาลอัดเงินเข้าระบบนั้นไม่ผิดหรอก...ถ้าทำเพียงชั่วครั้งชั่วคราว...เพื่อบรรเทาผลกระทบในยามที่เศรษฐกิจซบเซา....แต่นี่รัฐบาลทำอย่างนี้มาต่อเนื่อง 4-5 ปีแล้ว มันสะท้อนว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนได้....และหากยังฝืนทำต่อไปอีกแบบนี้...ก็อย่าไปตำหนิใครเขาเลย...ว่าทำไมมามองว่าไทยมีความเสี่ยงเรื่อง“ฟองสบู่”....ก็รัฐบาลนั่งตีฟองอยู่ทุกวันอย่างนี้...ใครบ้างจะไม่กังวล....
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี