เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องบอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หนังสือพิมพ์แนวหน้า ได้จัดปาฐกถาพิเศษ "แนวหน้า forum #2 สานพลังประชารัฐ สร้างเศรษฐกิจไทย"
โดย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจไทย ในปี 2562 เผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกประเทศ ล่าสุดเศรษฐกิจ ไทยในไตรมาส 3 ปี 2562 ขยายตัวที่ 2.4% ต่อปี ดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ปี 2562 ที่ขยายตัว 2.3% โดยภาคการส่งออกยังคงได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้า ที่ยืดเยื้อและสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้การส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำหดตัวลง นอกจากนี้การผลิต ภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีบทบาทสูงในเศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และการส่งออกที่ชะลอลงเช่นเดียวกัน ในขณะที่การท่องเที่ยวยังมีการขยายตัวอยู่ที่7%ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 1 อาทิ มาตรการ "ชิมช้อปใช้เฟส 1" มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการบรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรรายย่อยและเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง มาตรการพักชำระหนี้เงิน ต้นของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองผ่านธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ซึ่งมีกองทุนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 2,000 กองทุน มาตรการสินเชื่อผ่อนปรนผ่านสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งมีการอนุมัติ สินเชื่อไปแล้ว มากกว่า 600 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 อาทิ มาตรการ "ชิมช้อปใช้เฟส 2" โดยตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2562 จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 62 พบว่า มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์รวมเฟส 1 และเฟส 2 แล้ว 11,738,468 ราย ใช้จ่ายรวม 13,117 ล้านบาท และล่าสุด มาตรการ "ชิมช้อปใช้ เฟส 3" เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติมครบ 1.5 ล้านคนแล้ว ขณะที่การเปิดลงทะเบียน รอบพิเศษสำหรับผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็มีผู้มาลงทะเบียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย มีเป้าหมายอยู่ที่ 500,000 คน
รวมทั้งภาครัฐได้กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอีกจำนวนมาก อาทิ มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการลดค่าธรรมเนียมการโอนและ ค่าธรรมเนียมการจำนอง เหลือเพียงร้อยละ 0.01 ควบคู่ไปกับโครงการสินเชื่อ เพื่อที่อยู่อาศัยที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่และผ่อนปรนเพียงร้อยละ 2.5 ใน 3 ปีแรก ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ในภาค อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวในปี 2562 และยังเป็นการสนับสนุนให้ ผู้มีรายได้น้อยได้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองด้วย
โดยมาตรการ ดังกล่าวมีการกำหนดราคาที่อยู่อาศัยสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท มาตรการบรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรรายย่อยและ เกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ซึ่งเริ่มให้การช่วยเหลือตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ผ่านการลดดอกเบี้ยเงินกู้และการสนับสนุนต้นทุน การผลิต มาตรการพักชำระหนี้เงิน ต้นของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองผ่านธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ซึ่งมีกองทุนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 2,000 กองทุนเป็นต้น
ทั้งนี้ จากรายงานการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2563 ของธนาคารโลก (Ease of Doing Business Report 2020) ได้จัดอันดับ ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 21 ของโลก ดีขึ้น 6 อันดับจากอันดับที่ 27 ในปีที่แล้ว นับเป็นอันดับที่ดีที่สุดของไทยในรอบ 6 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ไทยอยู่ในลำดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซียซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ภาครัฐได้ขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น
นายอุตตม กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป คาดว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ โลกต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปี 2562 และปี 2563 โดยกระทรวงการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทย ปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐ ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนในการลงทุน และสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนในการบริโภคอุปโภคมากขึ้น หากจะให้ประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน
"เชื่อว่าไตรมาส 4 ถ้ายังสามารถเดินได้ ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่น เราเชื่อว่าจะประคองตัวได้ เฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มที่สามารถ ขยายตัวถึง 6% เชื่อว่าปีนี้เราจะโตได้ประมาณ 2.6 - 3% ไม่ถึงกับถดถอย แต่ในระยะสั้นเราต้องดูแลกันก่อนที่สำคัญก็คือโจทย์ระยะยาว พลังประชารัฐสร้างเศรษฐกิจ คือร่วมกันสร้างประเทศ เรื่องสำคัญก็คือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาทำ แต่พอเศรษฐกิจโลกมีปัญหาเศรษฐกิจในประเทศก็รวน แต่ทั้งเกิดจากความไม่สมดุลของโครงสร้างเศรษฐกิจเราในขณะนี้ ฉะนั้น เราต้องมาช่วยกับปรับเปลี่ยนเพื่อผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เราต้องร่วมกันปรับตั วันนี้โจทย์สำคัญคือสร้างเศรษฐกิจไม่รีรอ เราต้องทำตั้งแต่ฐานราก" นายอุตตม กล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี