คลื่น3500MHzเนื้อหอม!! "ดีแทค"ชี้"กสทช."เคลียร์คลื่น3500MHzให้ชัดก่อนนำมาประมูล5Gปีหน้า ระบุวิธีประมูลแบบ"Clock Auction"ไม่เหมาะ เหตุคลื่นความถี่ที่ประมูลประสิทธิภาพไม่เท่ากัน พร้อมติงหลักประกันทางการเงินควรมากกว่า10%สกัดกั้นตัวป่วนประมูล
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 นายมาร์คุส แอดอัคทูสเซ่น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ในวันนี้ 3 ธ.ค.คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ( MHz) 1800 MHz 2600 MHz และ 26 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) ซึ่งในมุมมองของดีแทค ยืนยันว่า พร้อมสนับสนุนการประมูลคลื่นดังกล่าว แต่ก็มีความเห็นที่อยากจะให้ กสทช.พิจารณาปรับเลื่อนการประมูลออกไป โดยให้รอนำคลื่น 3500 MHz จำนวน 300 MHz มาร่วมประมูลพร้อมกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้วางแผนการใช้คลื่นได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์คุ้มค่าต่อการลงทุน และทำให้การพัฒนา 5G มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ ดีแทคจะนำเสนอ ประกอบไปด้วย 1.กำหนดห้วงเวลาการประมูลใหม่ เพื่อรอความชัดเจนคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ซึ่งดีแทคเห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการประมูลแบบหลายย่านความถี่พร้อมกัน (Multiband auction) ซึ่งในทางเทคนิค คลื่นความถี่ย่าน 2600 และ 3500 MHz มีคุณสมบัติที่ทดแทนกันได้ และในหลักปฏิบัติสากล จะมีการนำคลื่นย่านความถี่กลาง (Mid-band) ทั้งสองย่านดังกล่าวมาจัดสรรพร้อมกัน เพื่อป้องกันในกรณีที่เผชิญความขาดแคลนของจำนวนคลื่น 2.กำหนดเพดานการถือครองจำนวนคลื่น 2600 MHz เพื่อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ในการประมูลเพื่อจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz ที่มีการกำหนดการถือครอง 190 MHz นั้น ดีแทคเห็นว่าควรมีการกำหนดเพดานในการถือครองเพื่อป้องกันการบิดเบือนของตลาดและกระจายการถือครองของผู้ให้บริการ เพื่อไม่ให้มีการผูกขาดคลื่น จนทำให้คนไทยบางกลุ่มขาดโอกาสเข้าถึง 5G
ขณะเดียวกัน 3.ความชัดเจนในการจัดการการรบกวนของคลื่นความถี่ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลื่น 2600 MHz) ที่ปัจจุบัน พบว่าคลื่น 2600 MHz มีการใช้งานอยู่เดิม 20 MHz ดังนั้น กสทช. จึงควรให้ความชัดเจนถึงแนวทางในการจัดการถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการรบกวนกันของคลื่นความถี่และข้อกำหนดในการใช้งาน เพื่อให้ผู้เข้าประมูลสามารถประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในการลงทุน และ 4.การกำหนดราคาเริ่มต้นของการประมูลคลื่นความถี่ที่สูงเกินไป ซึ่งจากร่างประกาศการประมูล กำหนดให้คลื่น 2600 MHz มีราคาเริ่มต้นที่ 1,862 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต (10 MHz) ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าค่ากลางของสากล ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายโครงข่าย ขณะที่คลื่น 1800 MHz ซึ่งมีราคาเริ่มต้นการประมูลที่ 12,486 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต มีราคาสูงกว่าราคาสุดท้ายในการประมูลของประเทศอื่นๆ หลายเท่าตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดความล้มเหลวในการประมูลได้ โดยข้อมูลจากสมาคมจีเอสเอ็ม ระบุว่า ราคาเริ่มต้นการประมูลคลื่น 1800 MHz ในปี 2561 และ 2563 มีราคาสูงกว่าตลาดโลกอย่างมาก
"ในปีหน้าคลื่น 3500 MHz จะกลับมาในมือ กสทช.ซึ่งตรงนี้สามารถนำมาวางแผนด้วยการเริ่มประมูลก่อนได้ ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์เพราะมองว่า คลื่น 2600 MHz มีเพียง 190 MHz ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อการนำมาใช้ 5G ซึ่งเมื่อประเมินแล้ว อาจจะมีผู้เข้าประมูลถึง 4 ราย และจำนวนคลื่นอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งควรรอ คลื่น 3500 Mhz จำนวน 300 Mhz" นายมาร์คุส กล่าว
นอกจากนี้ เรื่องของกฎระเบียบ วิธีการประมูลซึ่งจะต้องมีการประมูลในรูปแบบ (Clock Auction) ที่จะให้ประมูลคลื่นก่อน แล้วมาแข่งเลือกช่วงคลื่นที่หลัง ซึ่งมองว่า วิธีนี้ไม่เหมาะสม เพราะแต่ละคลื่นนั้นมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน ควรเปิดประมูลแบบให้เลือกช่วงคลื่นในการประมูลเลย และประเด็นสุดท้าย คือ การวางหลักประกันทางการเงินจากผู้เข้าประมูล ควรจะมากกว่า 10% เพื่อป้องกันผู้ที่เข้ามาป่วนการประมูล
"การทำให้ 5G เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เพียงบทบาทของผู้ประกอบการโทรคมนาคมเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความร่วมมือการขับเคลื่อนของทุกภาคส่วนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรกำกับดูแลและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะยังไม่ได้รับประโยชน์จากการครอบครองคลื่นความถี่สำหรับเทคโนโลยี 5G โดยการใช้งานจริง (use case) ยังต้องได้รับการพัฒนาและคำนึงถึงโมเดลในการหารายได้ที่ยังคงไม่มีความชัดเจน ภาครัฐจึงมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในเชิงกลยุทธ์ที่จะกระตุ้นการลงทุนเชิงโครงสร้าง ความร่วมมือจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะร่วมกันขับเคลื่อนสู่เทคโนโลยี 5G" นายมาร์คุส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี