นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “งานหัตถกรรมของขวัญของที่ระลึก Gift Fair ครั้งที่ 29 ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ถ.ทุ่งโฮเต็ล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นงานที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 29 โดยเปิดพื้นที่แสดงสินค้าหัตถกรรมของขวัญของที่ระลึก เพื่อหนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี เป็นงานที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมใจ ของผู้จัดงานที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในภูมิภาค ให้มีความสามารถแข่งขันได้ และสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน และมีความทันสมัยตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าว ยังมีส่วนช่วยให้ผู้ผลิตได้ทราบข้อมูลข่าวสารในด้านเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อันทำให้ผู้ประกอบการได้รับแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นต่อไป ในโอกาสที่ประเทศไทยได้เดินหน้าเข้าสู่เศรษฐกิจ ASEAN Economic Community ซึ่งงานนี้จะเป็นอีกงานหนึ่งที่สำคัญของจ.เชียงใหม่ และเป็นเวทีการค้าที่สำคัญของภาคเหนือ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs ในภูมิภาคได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเวทีสำหรับของการแสดงโอกาสในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจ ซึ่งจะเป็นแนวทางเชื่อมโยงการค้า การลงทุนที่มีศักยภาพระหว่างประเทศ แล้วยังเป็นช่องทางส่งเสริมบทบาทของเศรษฐกิจภูมิภาคในเวทีการค้าโลกต่อไป
"ผมเชื่อมั่นว่าการจัดงานหัตถกรรมของขวัญ ของที่ระลึก ที่ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีจะเกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการ และการรับรู้ข่าวสารใหม่ ๆ ที่จะช่วยส่งเสริม ให้มีการพัฒนากระบวนการผลิต และก่อให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และขีดความสามารถในการผลิตสินค้าของตนเองที่เพิ่มขึ้น ให้สามารถแข่งขันได้ เพื่อรองรับการขยายตลาด ในขณะเดียวกับผู้บริโภคเองก็จะได้รับการจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริม สินค้าหัตถกรรม และสินค้า OTOP ในภูมิภาคให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายต่อไป " นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
นางวัชรา จีรประภาพงศ์ ประธานจัดงาน “หัตถกรรมของขวัญ ของที่ระลึก ครั้งที่ 29 Gift Fair 2019 กล่าวว่า งานนี้เป็นการจัดงานที่ช่วยส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มคลัสเตอร์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ OTOP โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายสินค้าหัตถกรรม ของขวัญของที่ระลึก ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 400 บูท สำหรับไฮไลท์ของการจัดงานในปีนี้คือ การออกร้านของผู้ประกอบการ ภายใต้โครงการเพิ่มมูลค่าผ้าทอล้านนาด้วยนวัตกรรมจากพื้นที่จ.เชียงราย แพร่ ลำพูน ลำปาง และเชียงใหม่ ของสถาบันพัฒนาสิ่งทอ มาจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาด นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กว่า 80 ผลิตภัณฑ์ นำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงานนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางการค้าภายในงานกว่า 40 ล้านบาท
ด้านนางผ่องพุท รอนไพริน ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผสมผสาน บ้านศาลาไชย อ.เกาะคา จ.ลำปาง ผู้ผลิตน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ ซึ่งได้ร่วมงานนี้เป็นครั้งแรก กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงาน นอกจากจะให้สินค้าเป็นที่รู้จักแล้ว โดยหลังจบงาน จะขอเข้ารับคำปรึกษากับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากเดิมในเรื่องของระยะเวลาการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้ได้นานขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นที่รู้จักและอนาคตก็จะออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกขายสู่ตลาดต่อไป
นอกจากนี้ นายจันทร์คำ ปู่เป็ด หรือครูตุ้ย ครูภูมิปัญญาท้องถิ่นจากกลุ่มทอผ้าบ้านหล่ายแก้ว อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของชาวกะเหรี่ยง ที่ได้นำมาจำหน่ายในงานนี้ โดยได้รับความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ผลตอบรับดีเกิดคาด ต้องขอขอบคุณทางศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดโอกาสให้ได้เข้าร่วมงานนี้ ทั้งยังช่วยให้ชาวกะเหรี่ยงในชุมชนมีรายได้มากขึ้นด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน งานนี้จะจัดตั้งแต่ วันที่ 29 พ.ย. - 8 ธ.ค.2562 ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ถ.ทุ่งโฮเต็ล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เวลา 10.00 - 20.30 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี