นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า บอร์ดอีอีซี สั่งการให้วางแผนการจัดการขยะในพื้นที่อีอีซี หลังจากคาดการณ์ว่า ปริมาณขยะมูลฝอยในพื้นที่อีอีซีจะเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณ 4,200 ตัน/วัน ในปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 6,800 ตัน/วัน ในปี 2580 แต่ปัจจุบันยังขาดการบริหารจัดการ หากยังใช้การฝังกลบแบบเดิม ต้องเจอปัญหาขยะไม่ย่อยสลาย และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงใช้โมเดลโรงกำจัดขยะ จ.ระยอง เพื่อขยายผลครอบคลุม 3 จังหวัดในเขตอีอีซี เพิ่มอีก 6 แห่ง เพราะโรงขยะสามารถผลิตได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ และเศษพลาสติก ขยะอื่นอัดก้อนเป็นเชื้อเพลิงรองรับผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะได้ถึง 120 เมกะวัตต์ รองรับการกำจัดขยะที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน และกำจัดขยะสะสมได้กว่า 5.57 ล้านตัน ในพื้นที่อีอีซี ให้หมดไปภายใน 12 ปีข้างหน้า
โดยสำนักงานอีอีซี พร้อมประสานจังหวัดระยอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนจัดการขยะในพื้นที่อีอีซี ทั้งขยะบก บนเกาะ และในทะเให้เสร็จภายใน 3 เดือน พร้อมดึงให้กลุ่มบริษัท ปตท. บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ศึกษาขยายโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 เพื่อจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดตั้งโรงงานขยะ และโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะเพิ่มเติม ส่วนพื้นที่จังหวัดอื่นในอีอีซี จะเปิดให้ภาคเอกชนลงทุน มอบหมายให้กระทรวงพลังงานพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่อีอีซี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี