นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เปิดเผยว่าก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมีทางเลือกในการระดมทุนผ่านตลาดทุน โดยการออกหุ้นหรือตราสารหนี้ได้ตามความเหมาะสมของภาคธุรกิจ โดยเปิดให้สามารถระดมทุนผ่านคราวด์ฟันดิงซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากพัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อทำให้กระบวนการระดมทุนสำหรับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเป็นไปด้วยความง่าย สะดวก และรวดเร็ว
นอกจากนี้ ตั้งแต่มิถุนายน 2562 ก.ล.ต. ได้ศึกษาแนวทางเพิ่มเติมในการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเข้าถึงแหล่งทุนในตลาดทุน โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันประเมินปัญหาและอุปสรรคของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพอย่างเป็นระบบ และในเดือนกันยายน 2562 ได้จัดตั้งคณะทำงานเสริมสร้างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจเริ่มต้นกิจการเงินร่วมลงทุน นิติบุคคลร่วมลงทุนสู่ตลาดทุนไทย หรือ คณะทำงาน SMEs Startup PE VC ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดมาตรการสนับสนุนการระดมทุนของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ในตลาดทุนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยคำนึงถึงความสมดุลของกฎเกณฑ์ ทั้งในฝั่งผู้ระดมทุนและผู้ลงทุน โดยช่วงที่ผ่านมาสรุปการดำเนินการของ ก.ล.ต. ได้ดังนี้
1.ในการระดมทุนในตลาดแรก : ในเดือนสิงหาคม 2562 ก.ล.ต. ได้เสนอคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาเปิดช่องทางให้บริษัทจำกัดระดมทุนในตลาดแรกผ่านการเสนอขายหุ้นและหุ้นกู้แปลงสภาพต่อผู้ลงทุนและพนักงานโดยตรงได้เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ไม่เกิน 10 ราย 20 ล้านบาท เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพสามารถระดมทุนได้สะดวกมากขึ้นและจูงใจพนักงานที่มีศักยภาพให้เข้ามาร่วมงานกับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ดังกล่าวจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2562 คาดว่าจะออกหลักเกณฑ์ได้ภายในต้นปี 2563
2.ในการซื้อขายผ่านตลาดรอง : ก.ล.ต. ได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับแนวทางการวางหลักเกณฑ์การซื้อขายหุ้นของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในตลาดรองมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเปิดให้ผู้ลงทุนในตลาดรองสามารถลงทุนและซื้อขายเปลี่ยนมือหุ้นของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพได้ โดยต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ โดย ก.ล.ต. จะหารือคณะทำงาน SMEs Startup PE VCในการประชุมวันที่ 19 ธันวาคม 2562 เกี่ยวกับเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ เพื่อนำมาใช้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป
3.การปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้มีความเหมาะสม : เพื่อมิให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมีต้นทุนในการระดมทุนที่สูงจนเกินไป ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีโดยจัดทำรายงานทางการเงินโดยใช้แอพพลิเคชั่น รวมทั้งจะพิจารณาความเหมาะสมการเปิดให้จัดส่งงบการเงินเฉพาะงบครึ่งปีและงบปีและไม่กำหนดคุณสมบัติ CFO และไม่บังคับให้ใช้ผู้สอบบัญชีที่อยู่ในรายชื่อที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ได้ หากปฏิบัติงานในสำนักงานสอบบัญชีที่ ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบ
ทั้งนี้คาดว่าวันที่ 19 ธันวาคม 2562 นี้จะได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดตั้งตลาดรองในการซื้อขายหลักทรัพย์ของเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพรวมทั้งการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี