ลุ้นชิงโชค12ล.
สมนาคุณแฟนคลับ‘ชิมช้อปใช้’
ทั้ง‘รถเก๋ง-กระบะ-ทองคำ’
รัฐจัด‘ถนนคนเดิน’ทั่วปท.
คลังสมนาคุณแฟนคลับที่ร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้”ผ่านกระเป๋า 2 ร่วมลุ้นโชค 12 ล้าน ทริปแรก 20 ธันวาคมนี้เผยยอดสะสมทุก 1,000 บาท ได้รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับของสมนาคุณกว่า500รายการ ทั้งรถยนต์ รถกระบะทองคำแท่ง ขณะที่รัฐบาลต่อยอด“ถนนคนเดิน”พร้อมกันทั่วประเทศ ทุกวันอาทิตย์ ตลอดปี63มอบความสุขให้ชาวบ้าน หลังนำร่อง ถนนสีลมรายได้สะพัดกว่า7ล้าน
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ามาตรการ“ชิมช้อปใช้”ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการส่งเสริมให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2ซึ่งจากกระแสตอบรับดังกล่าว ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดของสมนาคุณเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยผ่าน g-Wallet ช่อง 2 อย่างต่อเนื่อง
โดยประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้ง 3 เฟส สามารถใช้สิทธิ์ภายใต้มาตรการได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ซึ่งนอกจาก จะมีสิทธิได้รับเงินคืนสูงสุดถึงร้อยละ 20 แล้ว ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของสมนาคุณต่างๆ มูลค่ารวม 12 ล้านบาท โดยประชาชนที่ใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 สำหรับยอดสะสมทุกๆ1,000 บาท จะได้รับ 1สิทธิ์ ในการลุ้นรับของสมนาคุณกว่า 500 รายการอีกทั้ง สำหรับยอดสะสมผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ตลอดมาตรการ จะมีสิทธิ์ลุ้นรับของสมนาคุณชิ้นใหญ่เพิ่มเติม ได้แก่ รถยนต์ และรถกระบะ
นอกจากนี้ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการทุกๆ 1ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าการชำระเงิน 100 บาทขึ้นไป จะได้รับ 1 สิทธิ์ ในการลุ้นรับทองคำกว่า 100 รายการ โดยสามารถลุ้นรับของสมนาคุณรวม 6 ครั้ง ในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2562 วันศุกร์ที่ 3 10 17 และ 24 มกราคม 2563 และวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563
“ทั้งนี้ในการลุ้นรับของสมนาคุณครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคมนี้ที่กระทรวงการคลังจะประกอบด้วยรถกระบะ Toyota Hilux Revo 1 คัน รถจักรยานยนต์ Honda New PCX150 4 คัน โทรทัศน์ดิจิทัล Samsung TV55 8 เครื่อง และทองคำ 156 แท่ง รวมของสมนาคุณทั้งสิ้น 169 รายการ” นายลวรณ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เห็นผลสำเร็จในการใช้จ่ายของประชาชนที่สูงขึ้นอย่างมาก โดยภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2562 มีผู้ใช้สิทธิ์รวม 3 เฟสจำนวน 11,794,825 ราย มีการใช้จ่ายรวมประมาณ 24,788 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 1 ประมาณ 11,637 ล้านบาท และ g-Wallet ช่อง 2 ประมาณ 13,151 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่า การใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ที่เป็นการเติมเงินของประชาชนเองมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้มีมูลค่าสูงกว่ายอดใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 1 แล้ว สะท้อนความนิยมของประชาชนต่อมาตรการ “ชิมช้อปใช้”
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่าสำหรับการจ่ายเงินคืน (cash back) จากการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 นั้น กระทรวงการคลังได้มีการจ่ายเงินคืนครั้งแรกแล้ว เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562 จำนวน 153,579 ราย รวมเป็นเงินประมาณ 384 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน -30 พฤศจิกายน 2562 ทั้งนี้ มีประชาชนบางส่วน ที่ยังไม่ได้รับเงินคืนเนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องการใช้สิทธิ์ตามมาตรการดังกล่าว จะได้รับแจ้งข้อความทาง SMS ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินคืนติดต่อคณะทำงานด้านกฎหมาย ส่วนกลาง โทร. 0 2270 6400 กด 7 หรือ สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ในวันและเวลาราชการ เพื่อตรวจสอบข้อมูล หากถูกต้องครบถ้วนจะได้รับเงินคืนทันที
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า สำหรับผู้ที่เคยถูกตัดสิทธิ์จากการไม่เริ่มใช้สิทธิ์ตามมาตรการฯ ภายใน 14วัน ได้มีการคืนสิทธิ์การใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 สำหรับผู้ที่เคยผ่านการยืนยันตัวตนจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและถ่ายรูปเปรียบเทียบใบหน้าในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว สามารถใส่หมายเลข PIN เดิม เพื่อใช้งานแอปพลิเคชันและรับสิทธิ์ได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้ายืนยันตัวตน ขอให้ดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนในแอปพลิเคชันเพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว
วันเดียวกัน นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เเถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้จัดพื้นที่ถนนคนเดิน หรือ วอล์คกิ้งสตรีท ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขยายไปยังส่วนภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “เดิน กิน ชิม เที่ยว” โดยได้นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ถนนสีลม และเยาวราช ที่มีการปิดถนนบางส่วนเพื่อจัดงาน โดยเป็นการลดฝุ่นละอองPM2.5 ไปด้วยในตัว ขณะเดียวกันก็เป็นการเสริมสร้างการตลาดของผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อยไปด้วยเช่นกัน โดยการนำร่องดังกล่าวประสบความสำเร็จเกินคาดคิด ซึ่งที่ถนนสีลมมีนักท่องเที่ยวกว่า7หมื่นคน มีเงินสะพัดหมุนเวียนประมาณ7ล้านบาท ขณะที่ถนนเยาวราช มีการจัดงาน3 วัน มีนักท่องเที่ยวประมาณวันละ5ล้านคน รวม4วันมีรายได้ประมาณ 16 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายกฯมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาอย่างถาวรเพื่อดำเนินการถนนคนเดินอย่างต่อเนื่องทั้งประเทศ โดยมีตนเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งในวันที่22 ธันวาคมนี้ เวลา 18.00 น. จะมีการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ที่ถนนสีลม และจะมีต่อเนื่องในทุกวันอาทิตย์ ตลอดทั้งปี 2563 โดยจะมีนำสินค้าโอทอปทั้ง 4 ภาค หมุนเวียนเข้ามาจำหน่ายในถนนสีลมด้วยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี