nn เรื่องค่าเงินบาท...เป็นประเด็นแรกของปี 2563 ที่มีการพูดถึง...ทั้งนักวิชาการ นักธุรกิจ บรรดาเหล่ารัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และ แม้แต่นายกรัฐมนตรีเองก็ยังพูดถึงและเรียกทีมรัฐมนตรีมาหารือในประเด็นนี้...
ค่าเงินบาทนั้นแข็งค่าขึ้นมา 2-3 ปีต่อเนื่อง และแข็งค่าขึ้นอย่างเร็วในช่วงปลายปี 2562 แม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ออกมายอมรับว่าเป็นการแข็งค่าที่ผิดปกติ เพราะแข็งเกินกว่าสภาพของเศรษฐกิจไทย...และในปี 2563 นี้สภาพของค่าเงินบาทก็ยังอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าและผันผวนต่อไป..ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายต้องเตรียมพร้อมรับมือ....
หลายปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางของค่าเงินบาทในปีนี้ประกอบด้วย 1.อัตราการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดไทยในปีนี้จะยังคงเกินดุลสูงอยู่ ใกล้เคียงกับปีก่อน ทำให้เงินทุนสำรองต่อหนี้ต่างประเทศอยู่ในอัตราที่สูงเช่นกันส่งผลให้เงินบาทมีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของภูมิภาค 2.ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกปรับลดลงบ้าง ทำให้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย และ รวมถึงไทยด้วย 3.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสปรับอ่อนค่าลงได้อีกเล็กน้อย ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้ก็มาจากการที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับดีขึ้นทำให้ความต้องการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลดลงมา
ปัจจัยที่ 4. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อจำกัดมากขึ้น ในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อผลในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน เพราะดอกเบี้ยนโยบายของไทยขณะนี้ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ถ้าจะลดดอกเบี้ยลงอีกก็อาจจะถูกกล่าวหาได้ว่าเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน ซึ่งจะส่งผลให้ถูกกีดกันทางการค้าได้ สรุปก็คือเป็นเรื่องที่ยากมากที่ ธปท.จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อผลด้านอัตราแลกเปลี่ยน 5. สถานการณ์สงครามทางการระหว่างสหรัฐกับจีนมีแนวโน้มที่ผ่อนคลายลง ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนโลกดีขึ้น และส่งผลให้ค่าเงินหยวนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และอาจทำให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ตลาดเงินของไทยประเมินว่า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ค่าของเงินบาทจะแข็งค่าต่อไปแต่ก็อาจจะไม่มากเหมือนปีก่อน โดยคาดว่าเงินบาทตลอดปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.50-30.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ถึงตรงนี้รัฐบาลน่าจะพอมองเห็นแล้วว่าทิศทางค่าเงินบาทจะไปทางไหน เงินบาทจะไปยืนอยู่ตรงไหน และอะไรที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาท เห็นโจทย์ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่า“มีฝีมือ”ขนาดไหนที่บริหารจัดการ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจไทย
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี