‘จุรินทร์’ เปิดกระทรวงพาณิชย์ พบตัวแทนซาเล้ง เจรจาหาทางออกปัญหากระดาษและขยะรีไซเคิล ชงกรมการค้าภายในกำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบการติดป้ายแสดงราคารับซื้อ
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ที่ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 อาคารสํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการนําเข้าเศษกระดาษ ทําให้ราคาในประเทศตกต่ำ
โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องขยะกระดาษมาหาหรือร่วมกันทั้งหมด 5 ฝ่าย คือ 1 กลุ่มผู้ประกอบการรถซาเล้งที่ไปรับซื้อขยะตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ 2 กลุ่มร้านรับซื้อของเก่าซึ่งก็ได้รับซื้อขยะกระดาษหรือกระดาษใช้แล้วในการทำธุรกิจ 3 กลุ่มทำธุรกิจแปรรูปกระดาษก้อน และ 4 กลุ่มผลิตกระดาษสำเร็จรูป ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่จะต้องทำงานเกี่ยวเนื่องกันโดยมีกลุ่มที่ 5 ก็คือ กลุ่มหน่วยงานราชการประกอบด้วย กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน และกรมศุลกากร กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆเป็นต้น
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเบื้องต้นขอให้ทางกลุ่มซาเล้งได้เห็นภาพรวมเสียก่อนว่าขยะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท 1 ขยะเทศบาล คือ ขยะที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไปไม่ได้แยกประเภทได้มีการห้ามนำเข้ามาแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้2 ขยะพลาสติกสำหรับขยะพลาสติกนั้นผู้ที่รับผิดชอบในการอนุญาตให้มีการนำเข้าได้เพื่อนำมารีไซเคิลหรือผลิตเป็นเม็ดพลาสติกเพื่อใช้ในการผลิตสินค้าส่งออกต่อไปเป็นส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม 3 ขยะอิเล็คทรอนิกส์ ขณะนี้ได้มีการกำหนดรายการขยะอิเล็คทรอนิกส์เสร็จสิ้นแล้วทั้งหมดมีด้วยกัน 430 รายการ ซึ่งกรมศุลกากรกำลังเร่งดำเนินการในการที่จะออกประกาศเพื่อกำหนดพิกัด ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว จากนั้นกระทรวงพาณิชย์จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะขอความเห็นชอบ ให้มีการห้ามนำเข้าขยะอิเล็คทรอนิกส์โดยเด็ดขาด และกระทรวงพาณิชย์จะเร่งออกประกาศห้ามนำเข้าต่อไป
เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มซาเล้งที่ไปรับซื้อเศษกระดาษในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศว่าราคาเศษกระดาษที่รับซื้อมานั้นเวลานำไปขายต่อราคาตกลงมาก ซึ่งจากการสรุปร่วมกันในการหาหรือร่วมกัน 5 ฝ่าย นี้ก็ได้ความเห็นตรงกันว่าสาเหตุที่ราคาตก คือ เกิดจากราคาเศษกระดาษในตลาดโลกตกลงมา และมีการนำเข้าขยะเศษกระดาษจากต่างประเทศเข้ามาใช้ในการผลิต ตกประมาณร้อยละ 40 ของการผลิตหรือความต้องการใช้เศษกระดาษ โดยความต้องการใช้เศษกระดาษในแต่ละปีตกประมาณ 4.6 ล้านตัน แต่ขยะในประเทศมีแค่ 2.9 ล้านตันต่อปีจึงมีการนำเข้าอย่างปีที่ผ่านมา 6.8 ล้านตัน ประกอบกับราคากระดาษในตลาดโลกมีความผันผวน ทำให้สถานภาพของราคาไม่นิ่งมากระทบกับราคารับซื้อจากซาเล้งเป็นทอดๆ
ดังนั้น จึงได้ข้อสรุปร่วมกันดังนี้
1 ) เรื่องของราคาที่ซาเล้งควรจะนำเศษกระดาษไปขายให้กับร้านค้าของเก่าร้านรับซื้อของเก่าได้แล้วร้านไปขายต่อให้โรงงานอัดกระดาษก้อนและโรงงานกระดาษก้อนก็ส่งต่อไปให้กับโรงงานแผ่นกระดาษนั้นควรเป็นราคาเท่าไหร่ โดยเฉพาะราคาต้นทางเมื่อเทียบกับราคาส่งออกหรือราคานำเข้า ขอให้ทั้ง 5 ฝ่ายไปประชุมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อสรุปกลับมาภายในหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมที่สุดและให้วงจรการผลิตกระดาษของประเทศเดินหน้าต่อไปได้และอยู่ร่วมกันได้ทั้งสี่ฝ่ายและได้รับความเป็นธรรมทั้งสี่ฝ่าย เพราะอุตสาหกรรมกระดาษมีความสำคัญเนื่องจากนอกจากเป็นแผ่นกระดาษแล้วยังเป็นกระดาษสำหรับทำกล่องส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศด้วยสะท้อนในการนำรายได้กลับประเทศต่อไปทั้งสี่ฝ่ายต้องอยู่ร่วมกันได้
2 ) ในระยะยาว มอบให้กรมการค้าต่างประเทศไปศึกษาว่าหากมีการนำเข้าเศษกระดาษเข้ามามากจนเกินสมควรและมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศหรือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับเศษกระดาษให้ประเทศเราจะสามารถใช้มาตรการ safeguard เช่น การขึ้นภาษีหรือการจำกัดโควตานำเข้าได้หรือไม่อย่างไร
3) ขอให้กรมศุลกากรได้เข้มงวดกับการนำเข้าขยะที่ยังอนุญาตเพื่อป้องกันการสำแดงเท็จหรือป้องกันปัญหาสิ่งที่ปนเปื้อนมากับเศษขยะที่มีลักษณะที่ผิดกฎหมาย
4 ) ขอให้กรมศุลกากรได้เร่งรัดการออกประกาศการออกพิกัดขยะอิเล็คทรอนิกส์ 430 รายการและเร่งออกประกาศโดยเร็วภายในสองสัปดาห์จะรีบทำให้เสร็จถ้าเสร็จแล้วกระทรวงพาณิชย์จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อห้ามนำเข้าขยะอิเล็คทรอนิกส์ต่อไปและเมื่อเห็นชอบแล้วภายในสองสัปดาห์อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยืนยันว่า สามารถนำประกาศมาให้ลงนามได้
“ส่วนเรื่องร้านรับซื้อของเก่าและซาเล้งรับซื้อเศษกระดาษเป็นข้อเสนอของซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าเองว่า ประสงค์ที่จะทำทะเบียนเพื่อเป็นระบบและภาครัฐก็จะเข้าไปช่วยดูแลได้สะดวกขึ้นให้ความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้นต่อไปในอนาคต ผมมอบให้ร้านรับซื้อของเก่าทั้งหมดรวมตัวกันทำทะเบียนผู้รับซื้อของเก่าขึ้นมาและแต่ละร้านรับซื้อของเก่าก็จะรวบรวมจำนวนซาเล้งว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพื่อนำเสนอต่อไปจะได้รู้ว่ารัฐจะเข้าไปช่วยเหลือดูแลเป็นจำนวนเท่าไหร่อย่างไร และสัปดาห์หน้าจะรอคำตอบจากการหารือ4 ฝ่ายในเรื่องของราคารับซื้อเศษกระดาษจากซาเล้งและผลคืบหน้าเป็นอย่างไรจะรายงานที่ผมจะนัดประชุมอีกครั้งหนึ่ง” นายจุรินทร์ กล่าว
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังสั่งการให้กรมการค้าภายในกำหนดมาตรการให้ผู้ประกอบการทุกฝ่ายติดป้ายแสดงราคารับซื้อ เพื่อความเป็นธรรมด้วย รายงานข่าวระบุว่าหลังจากนั้นนายจุรินทร์ลงไปพบปะชาวบ้านซาเล้งที่มารอฟังผลประชุม และเกิดบรรยากาศที่ชาวบ้านพอใจจนน้ำตาไหล
ด้าน ตัวแทนซาเล้งหลายรายได้ขอบคุณนายจุรินทร์ เพราะถือเป็นผลการประชุมที่ได้ผลเกินคาดสำหรับผลการประชุมวันนี้ นอกจากนั้นตัวแทนซาเล้งและกลุ่มรับซื้อของเก่ายังกล่าวว่าถือเป็นประวัติศาสตร์ในรอบ 100 ปีที่มีอาชีพและธุรกิจเกี่ยวกับขยะที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้มีโอกาสมาประชุมพบปะพูดจาหารือกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี