นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์หรือ STI เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัท ปี 2563 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog)กว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนงานในมือจากภาคเอกชน 76% และงานภาครัฐ24% งานส่วนใหญ่ของ STI เป็นงานโครงการขนาดใหญ่สามารถดำเนินงานต่อเนื่องได้ตามเป้าหมาย และทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในปีนี้ จึงตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีจะเติบโตมากกว่า10% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โปรเจกท์ใหญ่ที่ได้รับมาประเดิมศักราชใหม่ปีนี้ คือชนะประกวดราคางานจ้างควบคุมการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C จำนวน 1 โครงการ มูลค่าคุมงาน 520 ล้านบาท โครงการนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ (ธพส.) โดยงานในครั้งนี้ดำเนินการในนามกลุ่ม SPC Consortiumซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยมี STI เป็นแกนนำ ได้รับความไว้วางใจให้คุมงานโครงการใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่าก่อสร้างสูงถึง 22,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ STI มีงานโครงการในมือขนาดใหญ่หลากหลายกลุ่ม อาทิ โครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการพัฒนาพื้นที่หมอน 33 หรือบล็อก 33 เขตพาณิชย์สวนหลวง - สามย่าน ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) โครงการก่อสร้างศูนย์การค้า Terminal 21 พระราม 3 โครงการ ก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของธนาคาร ยูโอบี (ไทย) โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน Tipco Building Extension ทำให้ในปี 2563 ยังเป็นปีที่ STI มีการขยายการเติบโตได้อย่างโดดเด่น แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะซบเซา มีการชะลอตัวลงแต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัท

“สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปี 2562 มั่นใจจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน และตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องในปี 2563 มากกว่า 10% แน่นอน เพราะมีงานในมือที่เตรียมทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 80% ของเป้าหมายในปีนี้แล้ว” นายสมเกียรติ กล่าว