“จุรินทร์” นำทัพนักธุรกิจ บุกไฮเดอราบัด ตั้งเป้าขายไม้ยางพาราเพิ่มมากขึ้น ขณะที่วานนี้ เจรจาการค้าเมืองเบงกาลูรู ขายสินค้าได้มูลค่า 1,100 ล้านบาท เล็งยกตลาดอินเดีย เป็นคู่ค้าสำคัญ เพราะมีกำลังซื้อเป็นอับดับ 3 ของโลก เศรษฐกิจโตสวนทางสงครามการค้า “สหรัฐ-จีน”
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ที่เมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำภาคเอกชนเดินทางมาเปิดเครือข่ายเจรจาธุรกิจวันที่ 2 ที่เมืองไฮเดอราบัด เมืองหลวงรัฐเตลังกานา ประเทศอินเดีย โดยมีนายคาลวากุลท์ทารากา รามา เรา รัฐมนตรีบริหารเทศกิจพัฒนาชุมชนเมืองอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ และพาณิชย์ แห่งรัฐเตลังกานาให้การต้อนรับ โดยเป้าหมายในการเดินทางมาไฮเดอราบัด คือ การเปิดตลาดไม้ยางพารา เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์รองรับนโยบาย House for all คนอินเดียต้องมีบ้านทุกคน
โดยนายจุรินทร์ ได้กล่าวเปิดสัมมนากับนักธุรกิจไทยและอินเดียว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวจากสงครามการค้าสหรัฐฯ จีน แต่ตรงกันข้ามอินเดีย เศรษฐกิจเติบโตได้ถึง 5% เพราะอินเดียมีกำลังซื้อเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป้าหมายของรัฐบาลอินเดียต้องการให้เศรษฐกิจโตในประเทศภายในปี 2564 มูลค่า 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จึงเป็นโอกาสดีของไทยที่จะเข้ามาเปิดตลาด ซึ่งมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินเดีย ปี 2561 มีมูลค่าการค้า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปีจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเมืองไฮเดอราบัด เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไอทีและอุตสาหกรรมยาของอินเดีย จนได้รับการขนานนามว่า ไซเบอราบัด(Cyberabad) และ จีโนม วัลเลย์ (Genome Valley) ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกไม้ยางพาราอันดับ 1 ของโลก ผลิตได้ 120 ล้านลูกบาศก์คิวบิทฟุตต่อปี ไม้พาเลท 4 ล้านตันต่อปี โดยไม้ยางพาราไทยได้จากการเพาะปลูก ไม่ใช่การตัดไม้ทำลายป่า ได้รับมาตรฐาน FSC และ PEFC รวมถึงอุตสาหกรรมไม้ยางพารา ซึ่งไทยได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากความตกลงร่วมมือเขตการค้าเสรี FTA อาเซียน อินเดีย จึงเป็นโอกาสดีของไทย เพราะรัฐเตลังกานา กำลังมีนโยบายสำคัญสร้างเฟอร์นิเจอร์ปาร์ค รวมถึงการส่งออกแป้งมันสัมปะหลัง เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยา ซึ่งเมื่อวานนี้ ในการเจรจาการค้าที่เมืองเบงกาลูรู สามารถเจรจาการค้ารวม 1,100 ล้านบาท ประกอบด้วย ไม้ยางพารา แป้งมันสัมปะหลัง กาวผง เฟอร์นิเจอร์ วัสดุก่อสร้าง อาหารเคมีภัณฑ์
ด้านนายอัครินทร์ วงศ์อภิรัตน์ ตัวแทนนักธุรกิจไม้ยางพาราไทย มองว่า ไทยมีช่องทางและโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรมายังอินเดียได้หลายรายการ โดยเฉพาะไม้ยางพารา เนื่องจากอินเดียอยู่ระหว่างกำลังพัฒนาประเทศไปสู่เมืองเฟอร์นิเจอร์ปาร์ค และยกระดับความยากจนของประชากรอินเดียให้มีที่อยู่อาศัยครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับนโยบาย House for all คนอินเดียต้องมีบ้านทุกคน จึงเชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาของอินเดีย ดังนั้น กลุ่มธุรกิจไม้ยางพาราที่เดินทางมาร่วมคณะกับกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ มีความใจ จะสามารถเจรจาส่งออกไม้ยางพาราได้เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าให้มูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี โดยที่ผ่านมาไทยส่งออกไม้ยางพาราให้กับอินเดียได้เพียง ร้อยละ 1 ต่อปี ของภาพรวมการส่งออกไม้ยางพารา ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อย แต่เมื่ออินเดียตั้งเป้าจะพลิกโฉมเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่มากขึ้นในอนาคต เราจึงมั่นใจว่าในอีก 3-4 ปี จะส่งออกไม้ยางพาราได้เพิ่มขึ้นได้มากกว่าร้อยละ 2
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี