นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ไทยชูการ์มิลเลอร์ (TSMC) เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลตระหนักถึงปัญหาอ้อยไฟไหม้และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ทั้งภาครัฐ โรงงานน้ำตาลและชาวไร่ โดยวางแผนบริหารจัดการด้าน ซัพพลายเชนทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่กระบวนการบริหารจัดการแปลงเพาะปลูกอ้อย โดยจูงใจชาวไร่รวมแปลงเล็กเป็นแปลงใหญ่เพื่อเพาะปลูก ช่วยลดต้นทุนและสามารถนำรถตัดอ้อยเข้าไปจัดเก็บผลผลิตได้
ขณะที่โรงงานเร่งรณรงค์และสนับสนุนการตัดอ้อยสดอย่างต่อเนื่อง และเสนอให้ภาครัฐสนับสนุนสินเชื่อซื้อรถตัดอ้อยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่โรงงานและชาวไร่ เนื่องจากรถตัดอ้อยในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างสูงและไม่เพียงพอ รวมถึงสนับสนุนการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีโรงไฟฟ้าชีวมวลในบางพื้นที่ไม่สามารถขายไฟฟ้าแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้
“การแก้ไขปัญหาเผาอ้อยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน เชื่อว่าชาวไร่ก็ไม่อยากเผาแต่ด้วยแรงงานตัดอ้อยขาดแคลน ต้นทุนก็สูง โรงงานจึงได้เร่งส่งรถตัดอ้อยเข้าช่วยชาวไร่ที่เป็นคู่สัญญาจัดเก็บผลผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้อ้อยสดเข้าหีบซึ่งให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยสูงกว่าอ้อยไฟไหม้อย่างไรก็ดี โรงงานบางแห่งยังรับซื้อใบอ้อยใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า แม้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าจะสูงขึ้นก็ตาม” นายสิริวุทธิ์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์หีบอ้อยฤดูกาลผลิตปี 2562/63 หลังเปิดรับผลผลิตมาแล้ว50 วัน เริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2562 มีปริมาณผลผลิตอ้อยเข้าหีบแล้ว 42.62 ล้านตันอ้อยแบ่งเป็น อ้อยสด 21.69 ล้านตันอ้อยอ้อยไฟไหม้อยู่ที่ 20.93 ล้านตันอ้อย ผลิตน้ำตาลได้ 43.73 ล้านกระสอบ คิดเป็นอัตราผลผลิตน้ำตาล 102.61 กิโลกรัมต่อตันและมีค่าความหวานเฉลี่ย 12.20 ซี.ซี.เอส. เทียบกับระยะเวลาหีบอ้อยช่วงเดียวกันปี 2561/62 มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 36.41ล้านตันอ้อย เป็นอ้อยสด 15.83 ล้านตันอ้อยและอ้อยไฟไหม้ 20.58 ล้านตันอ้อย ผลิตน้ำตาลได้ 34.80 ล้านกระสอบ คิดเป็น95.59 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และมีค่าความหวานเฉลี่ย 11.46 ซี.ซี.เอส.
ปัจจัยที่ทำให้รับผลผลิตอ้อยเข้าหีบได้มากกว่าปีก่อน เนื่องจากมีโรงงานใหม่เพิ่มขึ้น 3 แห่ง รวมทั้งโรงงานได้เพิ่มประสิทธิภาพการหีบสกัดน้ำตาลที่ดีขึ้น เป็นผลให้ปัจจุบันโรงงานมีกำลังการผลิตหีบอ้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.0-1.1 ล้านตันต่อวัน อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบภัยแล้งที่รุนแรง คาดว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบปีนี้จะลดลงกว่า 30-40% ของปีก่อน หรืออยู่ที่ 90 ล้านตันอ้อยเท่านั้น ส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลจะลดลงจากปีก่อนประมาณ 3-4 ล้านตัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี