นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยม มอบนโยบายการบริหารงาน และติดตามผลการดำเนินงานโครงการตามนโยบายรัฐของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ว่า ได้มอบหมายให้ ธอส.เร่งดำเนินการ 3 ภารกิจ คือ 1.ช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
2.ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะมีภาคธุรกิจ และการจ้างงานที่เกี่ยวเนื่องจำนวนมาก เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจด้วยการจัดทำมาตรการใหม่มารองรับให้ประชาชนมีบ้านได้มากขึ้น
3.การนำฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 3.7 ล้านราย และเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าประชาชนในมิติอื่นๆ โดยนำมาเชื่อมต่อกับข้อมูลของรัฐบาลที่รวบรวมได้จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือมาตรการ “ชิมช้อปใช้”เพื่อเป็น Big data ในการพิจารณาจัดทำมาตรการใหม่ๆ เพื่อประชาชนต่อไป
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่าธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ“ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรมว.คลัง ที่ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ประชาชนทุกระดับรายได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกับแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย จึงได้เตรียมวงเงินรวมกว่า 100,000 ล้านบาท จัดทำ 4 ผลิตภัณฑ์โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2563 (กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.25%ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ส่วนเดือนที่ 37-42 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 43 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี และกรณีซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ปีที่ 1 จนถึงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ6.50% ต่อปี) ให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลักประกันและผู้กู้ต้องมีรายได้รวมไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 37-42 จะเป็น 0% ต่อปี ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563
2.โครงการสินเชื่อบ้าน Dream Homes by GHB (กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย MRR-2% ต่อปี (ปัจจุบันเท่ากับ 4.50% ต่อปี) เดือนที่ 61-66 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 67 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยที่หน่วยงานทำ MOU ภายใต้โครงการ Corporate Synergy กับธนาคาร อัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปีกรณีลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ย MRR-0.50%ต่อปี ให้กู้สำหรับผู้กู้ที่ปัจจุบันไม่มีการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. หรือสถาบันการเงินอื่นฟรี!! ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563
3.ผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 3 ชุดพิมานมาศ (กรอบวงเงินโครงการ 50,000 ล้านบาท) โดยสลากจะจำหน่ายหน่วยละ 50,000 บาท จำนวนสลากรวมทั้งโครงการ 1 ล้านหน่วย เปิดจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยธนาคารจะนำเงินที่ได้ไปจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 50,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ให้แก่ประชาชนทุกระดับรายได้โดยไม่มีเพดานวงเงินให้สินเชื่อต่อราย
4.มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ข้าราชการวงเงิน 8,300 ล้านบาท หรือ 1 หมื่นราย ผ่อนครึ่งเดียวเป็นเวลา 6 เดือน โดยนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด โดยยกเว้นดอกเบี้ยให้ด้วย เพื่อที่จะข้าราชการนำเงินที่เหลือจากการผ่อนชำระหนี้อีกครึ่งไปใช้จ่ายเพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนตามนโยบายของรัฐบาล โดยมาตรการทั้งหมดจะเสนอให้คณะกรรมการธนาคารเห็นชอบภายในเดือนนี้
นอกจากนี้ธนาคารยังพร้อมเดินหน้าให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อสร้างโอกาสในการทำให้คนไทยมีบ้านต่อไป โดยมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 209,000 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นปี 2562 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 215,301 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,209,264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.37% จากสิ้นปี 2561 และมีกำไรสุทธิจำนวน 13,352 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี