เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(สำนักงาน กสทช.) จัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) 2600 MHz และ 26 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) รวม 48 ใบอนุญาต จากทั้งหมด 49 ใบอนุญาต โดยทั้ง 3 คลื่นความถี่ที่ประมูลรวมมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท
โดยผู้ร่วมประมูล 5 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัททรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี)2.บมจ. ทีโอที 3.บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด (ดีทีเอ็น) 4.บมจ. กสท โทรคมนาคม หรือแคท และ 5.บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค หรือ เอดับบลิวเอ็น
โดยพิธีประมูลเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 08.20 น. มีพล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้จับสลากรายชื่อผู้เข้าร่วมประมูลว่ารายใดจะได้ทำการจับสลากเลือกเลขห้องประมูล และเลือกซองบรรจุ Username และรหัสผ่านตามลำดับ ก่อนเข้าห้องประมูลในเวลา 09.00 น.
ต่อมาเวลา 09.20 น. ผู้เข้าร่วมการประมูลจะทำการ Log in เข้าระบบ ก่อนเริ่มการประมูลในคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz เป็นลำดับแรกในเวลา 09.30 น. ตามด้วยคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz และคลื่นความถี่ย่าน 26 GHz โดยในการประมูลรอบแรกของแต่ละย่านความถี่ ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเสนอความต้องการชุดคลื่นความถี่ในย่านความถี่ที่ได้มีการวางหลักประกันไว้ หากไม่มีการเสนอความต้องการชุดคลื่นความถี่นั้นจะพ้นจากสถานะผู้เข้าร่วมการประมูล และถูกริบหลักประกันการประมูล
กระทั่งเมื่อเวลา 11.57 น. การเคาะราคาคลื่นความถี่ย่าน700 MHz ได้สิ้นสุดการเคาะราคาที่รอบ 20 จบที่ราคา 17,153 ล้านบาท จำนวน 3 ใบอนุญาต รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,459 ล้านบาท(ไม่รวมภาษี) โดย ใบอนุญาตละ 2x5 MHz ราคาเริ่มต้น 8,792 ล้านบาท เคาะราคาครั้งละ 440 ล้านบาท โดยมีผู้เข้าร่วม บริษัท ทรู มูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด, บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ,บมจ. กสท โทรคมนาคม
ต่อมาเวลา 12.50 น. เป็นการเคาะราคาคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz และสิ้นสุดการเคาะที่รอบที่ 2 เมื่อเวลา 13.29 น. จบที่ราคา 1,956 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 37,164 ล้านบาท โดยคลื่น 2600 MHz จำนวน 19 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 10 MHz ราคาเริ่มต้น 1,862 ล้านบาทเคาะราคาครั้งละ 93 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาเวลา 14.30 น.เป็นการเริ่มต้นการประมูลคลื่น 26 GHz และได้สิ้นสุดการเคาะราคาที่รอบแรกใช้เวลา 10 นาที ปรากฏว่ารอบแรกผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 26 ชุด แต่เนื่องจากคลื่น 26 GHz มีคลื่นความถี่จำนวน 27 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 100 MHz ราคาเริ่มต้น 423 ล้านบาทเคาะราคาครั้งละ 22 ล้านบาท ทำให้ผู้ที่เสนอราคารอบแรกชนะน็อกรอบแรกไปด้วยราคาที่ผู้เข้าประมูลประมูลได้ 423 ล้านบาทต่อ ใบอนุญาต รวม 26 ใบอนุญาต เป็นเงิน 10,998 ล้านบาท(ไม่รวมภาษี)
แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการโทรคมนาคม รายหนึ่ง เปิดเผยกับ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ว่า การประมูล 5G ในคลื่นแรก สำหรับคลื่นย่าน 700 MHz เป็นการเคาะราคาที่มีอัตราสูงกว่า การประมูลคลื่น 700 MHz ของปีก่อน ถึงสองเท่าที่ราคา 17,584 ล้านบาท ต่อ 10 MHz 1 ใบอนุญาต โดยในขณะนั้น กสทช.นำมาจัดสรรทั้งหมด 3 ใบอนุญาตเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่ชนะประมูลได้ไปจะมีราคาต้นทุนความถี่ที่สูงกว่า
โดยปัจจัยลบที่จะเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ชนะการประมูลในครั้งนี้ จะนำคลื่นที่ได้ไปให้บริการเทคโนโลยีระบบ 4G หรือ 5G ยกตัวอย่างหากนำไปให้บริการ 5G จะต้องปรับปรุงยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างสถานีฐานกับชุมสาย (Modernization of Transportation) เพื่อให้เกิด 5G Non - Standalone (Nsa) แต่หากให้บริการ 4G ประเด็นสำคัญคือ จำนวนเมกะเฮิรตซ์ ที่มีเพียง 10 MHz ทำ 4G จะแข่งขันกับผู้ให้บริการรายอื่นได้อย่างไร เนื่องจาก 4G ของผู้ให้บริการปัจจุบันมีหลากหลายคลื่นความถี่ ซึ่งหาก กสทฯ นำคลื่น 700 MHz ไปทำ 4G อุปกรณ์มีเพียงคลื่นความถี่ 1800 MHz
พลเอกสุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช.เปิดเผยว่า การประมูลคลื่นความถี่ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อนำไปสู่การต่อยอดประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในภาคส่วนต่างๆ และโครงข่าย 5G อันจะเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศดิจิทัล เป็นกลไกขับเคลื่อนให้เกิดการเปลื่ยนแปลงโครงสร้างด้านเศรษฐกิจและสังคม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี