นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่ายอดผลิตรถยนต์เดือนมกราคม 2563 อยู่ที่ 156,266 คันลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.99% เป็นยอดผลิตเพื่อส่งออก 85,143 คัน ลดลง 15.74% และยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 71,123 คัน ลดลง 9.46%สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่71,688 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.2%จากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ เช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์มียอดขาย 145,279 คัน ลดลง 2.4% แต่เพิ่มขึ้น27.9% จากเดือนธันวาคม 2562 และยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 65,295 คัน ลดลง19.96% ต่ำสุดในรอบ 7 ปี 9 เดือน โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัวลง ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง มูลค่าการส่งออก 32,271.37 ล้านบาท ลดลง 20.94%
สำหรับกรณี บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ประกาศยุติการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตในประเทศไทย และขายโรงงานผลิตรถยนต์ให้กับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นั้น เบื้องต้นประเมินว่าไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยมากนัก เนื่องจากตลาดได้รับรู้มาก่อนหน้านี้ เห็นได้จากบริษัทมีการประกาศแผนธุรกิจมาต่อเนื่องทั้งในไทย และในภูมิภาค โดยในไทยได้ประกาศยกเลิกผลิตรถยนต์นั่งในปี 2561 และใช้วิธีนำเข้าแทน ปี 2562 ลดพนักงานลงจำนวน 300 คน จนถึงปีนี้ประกาศยกเลิกการผลิตรถกระบะ ปิดโรงงาน ตลอดจนยกเลิกการจำหน่ายในไทยทั้งหมด
“สาเหตุที่จีเอ็มปิดโรงงานในไทยเพราะต้องการปรับแผนลงทุนไปยังตลาดอื่นที่ดีกว่า อาทิ จีน ถือเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่า คือ ตลาดรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวลง สาเหตุมาจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดรถยนต์ต่อจากนี้ยังไม่เห็นสัญญาณบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นจะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่น แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของแต่ละบริษัทด้วย” นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้หลังจีเอ็มขายกิจการในไทยให้บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ของประเทศจีนแล้ว น่าจะช่วยเสริมศักยภาพการลงทุนและอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยได้ เนื่องจากบริษัทของจีนเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการผลิตทั้งรถกระบะ รถยนต์นั่งและรถยนต์ไฟฟ้าขายในประเทศและส่งออก เฉลี่ยปีละ1 ล้านคัน ประกอบกับโรงงานของจีเอ็มมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายการลงทุนของจีนอยู่แล้ว
นายสุรพงษ์กล่าวว่า สอท.ขอติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อภาวะตลาดรถยนต์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการพิจารณาประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ในระยะต่อๆ ไป แต่ยังคงเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ปีนี้อยู่ที่ 2 ล้านคัน เป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1 ล้านคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคันโดยรถยนต์ของจีเอ็มส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออกมีสัดส่วนประมาณกว่าหมื่นคัน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสอท. กล่าวว่า ขณะนี้เต็นท์รถมือ 2 ได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถขายรถยี่ห้อเชฟโรเลตได้ และเกิดปรากฏการณ์ดัมพ์ราคาประชาชนแห่ซื้อรถเชฟโรเลตราคาถูก ซึ่งลูกค้าอาจต้องใช้เงินสดซื้อรถยนต์ เพราะสถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ มุมหนึ่งจึงสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ชัดเจนว่าคนมีกำลังซื้อ แต่ไม่กล้าใช้จ่าย เพราะไม่มั่นใจในเศรษฐกิจ
“ดังนั้นรัฐบาลควรจะใช้โอกาสนี้หาแนวทางกระตุ้นกำลังซื้อ อาทิ มาตรการชิมช้อปใช้ หรือออกมาตรการกระตุ้นการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยานยนต์ไฟฟ้าโดยเร็ว ทั้งมาตรการภาษีที่จูงใจให้เกิดการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าของค่ายรถยนต์ และความต้องการใช้ของประชาชนด้วย เพื่อให้ไทยเป็นฐานผลิตอีวีในอนาคต ไม่เช่นนั้นผู้ซื้อรถอาจหันไปนำเข้ารถอีวีแทน จนกระทบต่อฐานการผลิตของไทยได้”นายสุพันธุ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี