นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมกราคม 2563 มีมูลค่ารวม 19,625.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.35%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ6 เดือน จากการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นเริ่มกลับมาเปิดทำการ และการส่งออกทองคำที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ ทิศทางการส่งออกของไทยสะท้อนแนวโน้มเชิงบวกจากการลงนามข้อตกลงทางการค้าระยะแรก (Phase-1 Deal) ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ช่วยให้บรรยากาศการค้าดีขึ้นและคลายความกังวล สินค้าที่ได้รับผลกระทบภายใต้มาตรการสงครามการค้า อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ กลับมาขยายตัวทั้งในตลาดสหรัฐฯ และจีนอีกทั้ง สินค้าดาวรุ่งของไทยในภาคการผลิตจริง (Real Sector) หลายรายการ อาทิ ไก่สดแช่เย็น แช่แข็ง อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้กระป๋องและแปรรูปสิ่งปรุงรสอาหาร นมและผลิตภัณฑ์นม และเครื่องดื่ม ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง เมื่อหักทองคำและน้ำมันการส่งออกไทยเดือนมกราคม 2563 หดตัว 0.6%
“ส่งออกในเดือนมกราคม ยังไม่เห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มากนัก และการส่งออกไทยเริ่มฟื้นตัวจากสงครามการค้าและผลกระทบอื่นๆ หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19จบเร็วก็จะยิ่งดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรอาหารและสินค้าที่เป็นซัพพลายเชนจากไทยยังขายได้ดี เพราะคุณภาพดี มีความต้องการสูงมาก ครึ่งปีหลังการส่งออกจะดีขึ้น ทั้งปีการส่งออกยังคงยืนยันว่าจะเป็นบวกแน่นอน คาดว่าส่งออกปีนี้จะโตประมาณ 0-2% โดยส่งออกโต 2% ยังอยู่ในโอกาสที่จะทำได้”
อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังติดปัญหาด้านโลจิสติกส์ที่ยังคงมีการระงับการให้บริการ ดังนั้น จะต้องดูแลการขนส่งทางเครื่องบินเพิ่มเติมและรัฐบาลเจรจาผ่อนผันชั่วคราว ส่วนรถยนต์ยังคงกังวลการส่งออกที่ลดลงผลกระทบจากสงครามการค้า และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่รถไฟฟ้าตลาดต้องการมากขึ้นแต่ประเทศไทยยังไม่มีการผลิตส่งออก จึงต้องปรับตัว
“เชื่อว่าปีนี้การส่งออกไทยน่าจะอยู่ในขั้นพื้นตัวดีขึ้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ยังมีแผนขยายส่งออกในอีก 18 ประเทศตามที่วางแผนไว้ เช่น แอฟริกาใต้ รัสเซีย ตะวันออกกลาง เป็นต้น ดังนั้น ช่วงนี้ผู้ส่งออกไทยควรรีบปรับตัวรองรับความต้องการสินค้าไทยที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สินค้าไทยจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดโลก”
ส่วนการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุุดิบยังคงขยายตัว มูลค่านำเข้ารวม 21,181.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.86% อย่างไรก็ตาม ผลจากสงครามการค้าและช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางรายการมีการวางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมาประเทศไทยมากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเอื้อการเข้ามาลงทุนผลิตในประเทศไทย ส่วนดุลการค้าเดือนมกราคม 2563 ขาดดุล 1,555.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อีกทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เสนอให้กระตุ้นซื้อของไทยใช้ของไทย ท่องเที่ยวไทย อยู่ในชั้นเสนอให้รองนายกรัฐมนตรีพิจารณา เนื่องจากร่วมกับหลายหน่วยงานเป็นงานใหญ่แสดงศักยภาพของสินค้าไทย การผ่อนคลายกฎระเบียบบางอย่างแก่ภาคเอกชนด้วย รวมถึงช่องทางการตลาดออนไลน์ และมาตรการรองรับภัยแล้ง ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบรายได้เกษตรกรและกระทบการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี