ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่กระทรวงพาณิชย์ สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย นำโดยนายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ฯ และนายสมชาย บรรลือเสนาะ ประชาสัมพันธ์สมาพันธ์ฯ ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่1 /2563 โดยมีเรื่องพิจารณาสถานการณ์ของผลกระทบ COVID-19 ต่อการค้าภายในประเทศและการส่งออก การประเมินสถานการณ์ปริมาณสินค้าที่สำคัญต่อการอุปโภคของประชาชนให้มีเพียงพอในประเทศ
ทั้งนี้ ทางสมาพันธ์ฯ ยังได้นำเสนอปัญหาอุปสรรคของภาคเอกชนที่ต้องการให้เร่งปลดล็อค รวมทั้งมาตรการด้านการค้าปลีกสินค้าและระบบโลจิสติกส์ควรเร่งกำหนดแผนการผลักดันหลังสถานการณ์คลี่คลายเพื่อรองรับกับสถานการณ์ของไวรัส COVID-19 ประกอบด้วย
1.ให้มีมาตรการผ่อนปรนให้กับผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ ในการขนส่งและเคลื่อนย้ายสินค้าอุปโภคบริโภค ยาและเครื่องมือแพทย์และจัดการระบบโลจิสติกส์ เพื่อรองรับการส่งออกและนำเข้าเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น
1.1 แก้ไขปัญหาในการขาดแคลนเครื่องบินในการขนส่งสินค้าทางอากาศ
ข้อเสนอแนะ : จากสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้การขนส่งสินค้าและขนส่งผู้โดยสารทางอากาศถูกยกเลิกหรือระงับการบิน ไม่สามารถขนส่งสินค้าของไทยไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกได้
1.1.1 ให้จัดหาเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ เพื่อรองรับในการขนส่งสินคทางอากาศ เช่น ผัก ผลไม้ และสินค้าอื่นๆที่จำเป็นในปัจจุบัน
1.1.2 ประสานงานกับบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) เพื่อนำเครื่องบินโดยสารที่ถูกยกเลิกเที่ยวบิน ในสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาใช้ในการขนส่งสินค้าทางอากาศแทน
1.2 การนำระบบเทคโนโลยีมาควบคุมในการขนส่ง เช่น ระบบ Electronic Cargo Tracking Systemมาใช้ในการควบคุมการขนส่งสินคำ เพื่อรักษาความปลอดภัยของสินคำว่าปราศจากเชื้อไวรัสโควิด - 19
1.3 กำหนดช่วงเวลาในการอนุญาตให้ดินรถ เพื่อสามารถขนส่งสินค้าทั้ง Supply Chain ตั้งแต่ตันทางถึงปลายทาง ในกระบวนการขนส่งเข้าสู่โรงงานผลิต หรือขนส่งจากโรงงานไปยังศูนย์กระจายสินค้า จนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค ซึ่งถึงเป็นปัญหารวมที่ต้องการให้การลำเลียงสินค้าต่าง ๆ เป็นไปด้วยความสะดวก เพื่อไม่ให้สินค้าอุปโภคบริโภคและวัตถุดิบขาดแคลน ในสภาวะที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้
1.4 มีมาตรการกำหนดให้พนักงานของผู้ประกอบการผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ สามารถเข้าไปทำงานหรือจัดการระบบโลจิสติกส์ได้เป็นปกติ เช่น ท่าอากาศยานท่เรือด่านศุลกากรและหน่วยงานราชการ/เอกชนต่างๆที่เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออก
1.5 จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือในการป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย แจลแอลกอฮอล์ สำหรับเจ้าหน้าที่หรือพนักงานที่ทำงานเกี่ยวข้องด้านโลจิสติกส์
2. ให้นำระบบเทคโลโลยี เกี่ยวกับงานด้านโลจิสติกส์และพิธีการนำเข้าส่งออก เพื่ออำนวยความสะดวกที่บุคคลากรไม่ต้องออกไปทำงาน โดยการใช้ระบบ T เช่นงานพิธีการศุลกากร การขออนุญาตการนำเข้าและส่งออก ซึ่งมีเอกสารประกอบ เช่น B/LD/และ AWB
ข้อเสนอแนะ : ใช้วิธีการส่ง E-mail แทนการยื่นแบบปกติ การใช้ E-Payment / Bill Payment ชำระค่าภๅษีอากรและค่าธรรมเนียมแทนการใช้เงินสดและแคชเชียร์เช็ค
3. ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย(SME) ให้มีสภาพคล่อง ในช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่น การให้สนับสนุนด้านการเงินจากภาครัฐ "สินเชื่อโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสิกส์ไทย"ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับผู้ประกอบการ รME ในกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์
4. การขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศ (Cross Border) ให้มีการผ่อนปรน เรื่องพิธีการนำเข้าส่งออก ตามด่นศุลกากรในประเทศต่งๆที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยและการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนตามด่นศุลกากรที่ติดกับประเทศอื่นๆ ให้สามารถดำเนินการขนส่งสินค้าทางถนนได้เช่น การขนส่งสินคำผลไม่โดยขนส่งทางรถจากไทย ไปลาว เวียดนาม จีน เป็นตัน
5. ช่วยสนับสนุนปัญหาอุปสรรคต่งๆที่มีกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านโลจิสติกส์ในการนำเข้า และส่งออก เช่น ปัญหาเรื่องการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7 % เพื่อลดภาระและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการส่งออกและผู้ประกอบให้บริการด้านโลจิสติกส์ และควรเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 0%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี