เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ผู้บริหารสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) หรือ สรท. แถลงสถานการณ์การส่งออก
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธาน สรท. เปิดเผยภาพรวมการเศรษฐกิจของไทยในปี 2563 โดยประเมินว่า ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย และส่งผลกระทบต่อจีดีพีภายในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคภายในประเทศชะลอตัวไปมาก เนื่องจากภาครัฐได้มีการออกมาตรการให้ประชาชนอยู่ภายในบ้าน และให้ทำงานที่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาด ส่งผลให้การบริโภคมีอัตราการชะลอตัวลดลง
ในส่วนของการลงทุนภาคเอกชน มองว่าปัจจุบันมีการชะลอลงทุน ขณะที่การลงทุนของภาครัฐมีการชะลอตัวการลงทุนไปบ้างในบางโครงการ ซึ่งส่งผลให้ภาคการบริโภคภายในประเทศและภาพรวมเศรษฐกิจของไทยยังคงเป็นภาพลบ
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจน และส่งผลให้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีการปรับตัวเลขจีดีพีของประเทศในปี 2563 นี้อยู่ที่ -5.3% และ ภาคการส่งออก-8%
“หากภาครัฐยกระดับมาตรการความเข้มข้นหรือเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง มองว่าภาครัฐจะต้องมีการเตรียมความพร้อมให้ดี และที่รัดกุมเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้ามีการปิดจริงนั้นเท่ากับว่าภาคอุตสาหกรรมจะต้องปิดตัว และส่งผลต่อแรงงาน ทั้งนี้หากมีประกาศออกมา มองว่ามีความเป็นไปได้ที่การส่งออกในปีนี้อาจจะติดลบเป็นเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตามอยากให้ภาครัฐเตรียมแผนรองรับโดยเฉพาะการงบสนับสนุนสำหรับเพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน” นางสาวกัญญภัคกล่าว
สำหรับการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 20,642 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว -4.47% การส่งออก
ในรูปเงินบาทเท่ากับ 622,310 ล้านบาท หดตัว-8.51% ในขณะที่ การนำเข้ามีมูลค่า 16,745 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว -4.30% และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 512,083 ล้านบาท หดตัว -8.24% ส่งผลให้ในเดือนกุมภาพันธ์ ประเทศไทยเกินดุลการค้า 3,897 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 110,226 ล้านบาทโดยกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวที่ -3.0% ขณะที่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวที่ -5.2%
นางสาวกัณญภัคกล่าวเพิ่มเติมถึงข้อเสนอแนะสำหรับรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า สรท. มีข้อเสนอแนะรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ต่อภาคการส่งออกไทย เพื่อเสนอต่อหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านการนำเข้าวัตถุดิบและการส่งออกสินค้า
รวมถึงขอให้ภาครัฐมีความชัดเจนในเรื่องของวิธีการดำเนินงานของภาคการส่งออก นำเข้า โรงงานการผลิตและระบบโลจิกสติกส์ หากจำเป็นมีการประกาศเคอร์ฟิวยกระดับเป็น 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ เนื่องจากโรงงานและระบบโลจิสติกส์เพื่อการส่งออกนำเข้าไม่สามารถหยุดการดำเนินกิจกรรมการทางการค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศได้ มิเช่นนั้นแล้วอาจทำให้ engine หรือเครื่องยนต์ตัวสุดท้ายของระบบเศรษฐกิจพัง
พร้อมกันนี้เสนอให้เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญของประเทศ ทั้งทางบก ทางราง ทางเรือ และทางอากาศ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจในประเทศสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี