“กระทรวงพาณิชย์” ระดมเปิดมาตรการเยียวยาผลกระทบ “โควิด-19” พักหนี้เกษตรกร 900 ล้านบาท “กฟผ.” อุ้มราคาปาล์ม รับซื้อ 3 หมื่นตัน ผนึก “ไปรษณีย์ไทย” ขายผลไม้ออนไลน์ ระบายสินค้าภายในประเทศ ดึงเอกชนร่วมลดราคาสินค้า
11 พฤษภาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงพาณิชย์ ในสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีการประชุมกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยมีมติร่วมในหลักการ ให้พักชำระหนี้เกษตรกรทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย ในวงเงินประมาณ 900 ล้านบาท โดยกองทุนฯต้องกลับไปแก้ไขระเบียบเกี่ยวข้อง ที่เดิมใช้มาตรการขยายเวลาชำระหนี้ แล้วเข้าประชุมคณะกรรมการกองทุนฯอีกครั้ง เพื่อออกเป็นระเบียบปฏิบัติ
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สินค้าเกษตร 5 ชนิดหลัก คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์ม โดย 4 ชนิดราคาปรับตัวดีขึ้น ยกเว้นปาล์มที่ราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาด มีการจำกัดการเดินทาง ทำให้การใช้พลังงาน ไบโอดีเซลที่มีปาล์มเป็นวัตถุดิบลดน้อยลง เมื่อความต้องการน้อยราคาจึงตกไปบ้าง แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น การเดินทางสัญจร และการขนส่งเริ่มกลับมา บริษัทผู้ผลิตไบโอดีเซลจึงพร้อมที่จะรับซื้อผลปาล์มมากขึ้น
ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตโดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ที่ยังเหลือรับการซื้ออีก 3 หมื่นตันในเร็ววันนี้ คาดว่าราคาผลปาล์มจะขยับตัวสูงขึ้น แต่หากเสถียรภาพยังไม่ดีขึ้น จะสำรองการรับซื้อเพิ่มอีก 1 แสนตัน รวมถึงของความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รับซื้อผลปาล์มในราคาเป็นธรรม ไม่กดราคากับชาวสวนปาล์ม ซึ่งถ้ามีการกดราคาจนไม่เป็นธรรม จะขัดกฎหมาย มาตรา 29 การกดราคาสินค้าเกินควรซึ่งจะมีโทษทั้งจำและปรับ
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลผลไม้ และจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการส่งออกโดยเฉพาะมะม่วง ที่ไม่สามารถส่งออกขายนอกประเทศได้ เนื่องจากหลายประเทศมีการปิดพรมแดน กระทรวงพาณิชย์จึงร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทย ช่วยกันจำหน่ายผลไม้ออนไลน์ ภายในประเทศ โดยไปรษณีย์ไทยที่มีกลไกโลจิสติกส์ จะเข้าไปรับสินค้าถึงในสวน และจัดส่งให้ด้วย ขณะที่กรมท่าอากาศยาน ให้ความร่วมมือจัดพื้นที่ในสนามบิน เปิดขายผลไม้ ซึ่งมีบริการส่งฟรีในระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ยังมีโครงการแลกสินค้าการเกษตร เช่น ข้าวแลกปลา เป็นแนวคิดกระทรวงพาณิชย์ ที่ใช้กลไกพาณิชย์จังหวัด ให้เป็นเซลล์แมนขายสินค้า เนื่องจากแต่ละจังหวัดรู้ว่าตัวเองมีสินค้าอะไร ที่ล้นอาจตลาด อยากระบายไปที่อื่น ขณะที่บางจังหวัดรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร โดยจังหวัด วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์ ร่วมมือกัน เสนอสิ้นค้าจับคู่กัน ทำให้เกิดมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าการค้าปกติ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา 900 กว่าล้านบาท ซื้อขายสินค้าเกษตรออกนอกพื้นที่ มากขึ้น
เมื่อถามว่าการส่งออกสินค้าขณะนี้เริ่มทำได้แล้วหรือไม่ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาด ทุกประเทศจำกัดการเคลื่อนย้าย ทั้งคน และสินค้า โดยเฉพาะประเทศจีน ที่มีความต้องการสินค้าเกษตรของเราค่อนข้างเยอะ ที่ผ่านมาใช้การขนส่งผ่านประเทศเพื่อนบ้าน และวิ่งยาวไปถึงประเทศจีน แต่มีการล็อกด่านพรมแดนจึงเกิดความยากลำบาก รัฐบาลจึงใช้การเจรจาในระดับสูงด้านการทูต ซึ่งปัญหาเริ่มคลี่คลายแล้ว โดยเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สปป.ลาว ได้กำหนดจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า ให้ใช้รูปแบบอยู่ดินแดนประเทศไหน ให้คนชาตินั้นขับ จึงเกิดความสะดวกเพราะหากใช้คนจากประเทศเราขับเข้าไปก็จะถูกกักตัว ขณะที่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางการจีนเปิดนำเข้าผลไม้ทางบก บริเวณด่าน ตงซิง ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศเวียดนาม และด่านหมิงเสียง ก็เปิดด่านรถไฟเพิ่มจากเดิมที่มีแต่ด่านรถยนต์
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชยังมีโครงการให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก โดยจัดโครงการธงฟ้าสู้ภัยโควิด-19 ที่เริ่มต้นเฟสแรกมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม มีรถเร่ร้อยกว่าคัน วิ่งขายสินค้าราคาประหยัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และจะมีเฟส 3 ในวันที่ 13 พฤษภาคม จะเพิ่มรถเร่เป็น 300 คัน รวมถึงโครงการพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา มีสินค้าร่วมรายการ 72 รายการ ผู้ประกอบการ 31 ราย โดยเฟส 2 เมื่อวันที่ 25 เมษายน มีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเป็น 51 ราย และสินค้า 3,025 รายการ และเตรียมที่จะมีเฟส 3 อีกในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ เรายังได้รับความร่วมมือจาก 7-11 ลดราคาอาหารแช่แข็ง เมนูยอดนิยม 6 เมนู จากราคา 30 -32 บาท จะขายในราคาเดียวคือ 20 บาท เช่นเดียวกับบริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด จัดสินค้ามาม่าคัพ 14 รส จากราคา 13 บาท ลดเหลือราคา 10 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ซื้อสินค้าราคาถูก และลดค่าครองชีพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี