"อนุทิน”เผย”นายกฯ”เห็นด้วยให้ฟื้นฟูการบินไทย ย้ำเป็นหนทางที่ดีที่สุด แนะต้องยอมถอยคนละก้าว เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องขายทอดตลาด ชี้ปล่อยการบินไทยล้มละลายไม่อยู่ในหัว ”นายกฯ”ปัดตอบ“อุตตม”ไม่ร่วมหารือมีนัยยะหรือไม่ โยนถามเจ้าตัวเอง
เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการบินไทยเข้าหารือประมาณครึ่งชั่วโมง
โดยนายอนุทิน เปิดเผยภายหลังการหารือว่า การบินไทยถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ส่วนการเพิ่มเงินจากกระทรวงการคลังไปค้ำประกันหนี้หรือหาเงินทุนเพื่อจะมาลงก็ลำบาก ซึ่งก็น่าจะเหลืออยู่วิธีการเดียวคือการฟื้นฟูการบินไทย ซึ่งการฟื้นฟูกิจการจะต้องมีขั้นตอนทำไปพร้อมๆกันกับการปรับโครงสร้างผู้บริหารการบินไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการได้ เป็นสิ่งที่หารือกันเบื้องต้นในขณะนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นใหญ่ของการบินไทยซึ่งมีกระทรวงการคลังเป็นหลักแต่วันนี้ทางกระทรวงการคลังไม่ได้มาหารือด้วย
"นายกรัฐมนตรีก็มีความเห็นไปในทางเห็นด้วยที่จะให้มีการฟื้นฟูกิจการการบินไทย ซึ่งถือเป็นวิธีการที่สวยที่สุดถ้าทุกคนและทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ การบินไทยก็จะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้"
ผู้สื่อข่าวถามว่าการบินไทยทำแผนฟื้นฟูมาแล้วหลายรอบแต่ยังไม่ได้ผล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นแผนการฟื้นฟูกิจการภายใน ไม่ใช่แผนการฟื้นฟูหนี้ แต่เรากำลังฟื้นฟูหนี้ที่มีอยู่ ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้
เมื่อถามว่า นายกฯได้ให้ไปศึกษาพระราชบัญญัติล้มละลาย การฟื้นฟูกิจการในหมวดฟื้นฟูกิจการซึ่งวันนี้เข้าอยู่หลายข้อคนที่ยื่นฟื้นฟูกิจการไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหนี้อย่างเดียว เจ้าหนี้ที่มีหนี้ มากกว่า 10 ล้านบาทก็สามารถยื่นขอให้ฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งในหมวดฟื้นฟูกิจการจะมีเงื่อนไขที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าอะไรบ้างที่เข้าในกระบวนการฟื้นฟูกิจการเช่น 1.มีหนี้สินล้นพ้นตัว มีส่วนของหนี้สินเกินกว่ากี่เท่า 2. ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ซึ่งก็ต้องไปดู และ3.ในส่วนของผู้ถือหุ้น หรือส่วนทุน เป็นลบ ก็ต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ นอกจากนี้ก็มีรายละเอียดอีกหลายข้อ และไม่ใช่ต้องเข้าทั้งหมดมีเพียงข้อใดข้อหนึ่งก็ยื่นขอฟื้นฟูได้
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เราก็ต้องแข่งกับเวลา ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้วก็เป็นเรื่องของเจ้าหนี้และลูกหนี้โดยมีศาลเป็นผู้กำกับ และจะต้องมีผู้ทำแผน เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจการบริหารจัดการบริษัทนั้นๆก็จะอยู่กับผู้ทำแผนที่ศาลเป็นผู้แต่งตั้งโดยเป็นความเห็นชอบทั้งจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ ผู้ทำแผนต้องมีหน้าที่เจรจากับเจ้าหนี้ และทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมา ถ้าตกลงกันได้ก็ไปโหวตที่ศาล หลังจากนั้นผู้ทำแผนก็หมดหน้าที่ไป เป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนที่ต้องทำตามแผนฟื้นฟูกิจการตามที่ศาลมีคำพิพากษามา ซึ่งมีขั้นตอนอีกมาก
“วันนี้เราต้องเร่งหาข้อสรุปในตัวนโยบายโดยนายกรัฐมนตรี บอกว่าเราต้องฟื้นฟูกิจการ ถ้าไม่ฟื้นฟูเราไปต่อไม่ได้ ตอนนี้เรามีสถานการณ์โควิด สายการบินก็ไม่ได้บิน เดินทางเข้าประเทศต่างๆก็ไม่ได้ สายการบินในประเทศรายได้ก็หายไปมาก ผมคิดว่าตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว การฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอยกันบ้าง เพียงแค่ก้าวเดียว ก็จะเดินหน้าไปได้ 5 ก้าว ซึ่งเราควรจะต้องทำ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นกระทรวงคมนาคมที่ผมกำกับดูแล เพียงได้แต่เสนอเท่านั้น แต่ทั้งหมดอยู่ที่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะกระทรวงการคลังก็ต้องไปพูดคุยกันอีกที”
เมื่อถามว่าการที่กระทรวงการคลังไม่มาร่วมหารือด้วยมีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงต้องไปถาม นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ดู อย่างไรก็ตามหากพูดถึงผู้ถือหุ้น ถ้าในบริษัทนั้นๆ มีส่วนของทุนเป็นลบ ใบหุ้นก็ไม่มีราคาอะไร เจตนารมณ์ของการฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย หลักการคือเมื่อคนสะดุดล้มด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แทนที่จะขายทรัพย์สินหรือขายทอดตลาด แล้วนำมาแบ่งเฉลี่ย อาจจะได้คนละนิดหน่อย แต่การให้โอกาสในการฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎกติกามารยาทใหม่ทั้งหมด กิจการนี้ก็อาจจะรอด ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนใดที่ไม่มีมูลค่าก็อาจกลับมามีค่าก็ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“คนที่ตั้งใจทำ ให้ความร่วมมือดีทั้งผู้ถือหุ้นและลูกหนี้ พนักงาน กิจการก็จะสามารถกลับมาใหม่ได้ แต่ถ้าทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ อะไรก็ไม่เอาอะไรก็ไม่ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่มีทางเลือก ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องขายทอดตลาด หลักการก็มีอยู่แค่นี้ แต่สำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะหัวหน้ารัฐบาลอย่างนายกรัฐมนตรี ก็อยากให้มีการฟื้นฟูกิจการก่อน การไปขายทอดตลาด หรือปล่อยให้ล้มละลายไม่มีอยู่ในหัวของนายกรัฐมนตรี เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ถือเป็นทิศทางที่ดี”นายอนุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้( 14 พ.ค.) นายอุนทิน ชาญวีรกูล และรมว.สาธารณสุข ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงการคมนาคม ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางการฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย
โดยมีรายงานว่า แนวทางหนึ่งที่มีการเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจาณาในวันที่ 18 พ.ค.นี้ และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ก็คือ ให้บริษัท การบินไทย ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลาย เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูฯตามพ.ร.บ.ล้มละลายต่อไป
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปฏิเสธข่าวความขัดแย้งกรณีการแก้ปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังไม่เข้าประชุมกับกระทรวงคมนาคม เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.)
"ผมติดภารกิจ จึงไม่สามารถเดินทางไปร่วมประชุม แต่ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ ประชุมแทน และได้โทรศัพท์พูดคุยกันแล้ว โดยกระทรวงการคลังไม่ได้ขัดแย้งกับกระทรวงคมนาคม พร้อมย้ำว่าหากการบินไทยและกระทรวงคมนาคมหาทางออกเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูองค์กรที่พิสูจน์ผลได้จริง ก็ไม่จำเป็นต้องยื่นศาลขอล้มละลาย คาดว่าปัญหาการบินไทยจะได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า"นายอุตตม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี