nn บมจ.ไทยออยล์...วิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (1-5 มิถุนายน)...โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบผันผวนแม้ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากมาตรการผ่อนคลายการปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลกและกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีแนวโน้มลดลงตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย. 2563 อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนปะทุอีกครั้งจากสถานการณ์ความไม่สงบครั้งใหม่ในฮ่องกงโดยสหรัฐฯ ขู่ตัดสิทธิพิเศษทางการค้าของฮ่องกง หลังจีนกำลังพิจารณาใช้กฎหมายควมคุบฮ่องกง ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจโดยภาพรวม…คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 32-37 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 34-39 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล...
nn การระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชน...ทำให้ตัวเลขการใช้นำมันเชื้อเพลิงของไทยลดลง...ตัวเลขล่าสุดในจากกรมธุรกิจพลังงาน...พบว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 4 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-เม.ย.) พบว่าลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น11.7%...โดยกลุ่มเบนซิน ปริมาณการเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 29.47 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 8.1%...กลุ่มดีเซลเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 66.16 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 4.8%...ส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 13.80 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 33.7%...การใช้ LPG (ก๊าซหุงต้ม) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.65 ล้าน กก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 13.6%...การนำเข้าน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 947,032 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 3.5% คิดเป็นมูลค่า 48,608 ล้านบาท/เดือน....ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และLPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงอยู่ที่ 32,395 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 58.9% คิดเป็นมูลค่า 1,661 ล้านบาท/เดือน...
nn ด้วยสภาพการทางกิจพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยลบผู้ประกอบการธุรกิจนี้จึงต้องปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์...โดย ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ปตท. ได้ทบทวนแผนการลงทุนของ ปตท. และบริษัทย่อยที่ ปตท.ถือหุ้น 100% โดยอนุมัติให้ปรับลดแผนการลงทุนสำหรับปี 2563 จาก 69,310 ล้านบาท
เป็น 53,901 ล้านบาท ลดลง 15,409 ล้านบาท...ทั้งธุรกิจก๊าซธรรมชาติ...ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ....ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ...ธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม...ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย...แม้ว่าจะลดวงเงินลงทุนแต่โครงการลงทุนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างยังคงดำเนินการตามแผนการลงทุนเดิม เช่น โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากสถานีควบคุม ความดันก๊าซฯ ราชบุรี-วังน้อยที่ 6 โครงการสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) แห่งที่ 2เป็นต้น...
nn ขณะที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพิ่มการปรับลดงบการลงทุนปีนี้เพิ่มเติมเป็น 9 พันล้านบาท โดยแบ่งการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลง 2.4 พันล้านบาทและที่เหลือเป็นการชะลอการลงทุนลง เช่น การปรับลดการขยายสถานีบริการน้ำมันในปีนี้ลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 60 แห่ง เหลือเพียง 54 แห่ง รวมทั้งบริษัทฯมีการออกหุ้นกู้รวมทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท
และเงินกู้ระยะสั้นอีก 7 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง...
nn กำลังจะมีบริษัทในธุรกิจพลังงานน้องใหม่เข้ามาเฉิดฉายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเร็วๆ นี้..นั่นคือ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด...ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการผนึกกำลังของ 3 ผู้ลงทุนหลัก...ประกอบด้วย บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN), บมจ. อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) และ บมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META)...งานนี้ได้ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)...เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย...nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี