"พีระพันธุ์’ห่วงลดเงินเดือนพนง.ทำระดับล่างลำบาก แนะตัดค่าใช้จ่ายอื่นมาช่วย
วันที่ 2 มิถุนายน 2563 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดทำแผนฟื้นฟูการบินไทย ให้สัมภาษณ์กับรายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand "ช่อง 9 MCOT HD เกี่ยวกับแผนฟื้นฟูการบินไทย โดยระบุตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันการบินไทยยังมีเงินอยู่ประมาณหมื่นกว่าล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายมีไม่มากนักเพราะช่วงนี้ไม่ได้ทำอะไร และทยอยแก้ปัญหาไปตามลำดับ เช่น เรื่องน้ำมันเครื่องบินได้ทำความตกลงกับบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) แล้ว รวมถึงข้อติดขัดที่มีกับธนาคารกรุงไทย โดยส่วนตัวไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องการทำธุรกิจหากข้อมูลที่ได้รับรายงานมาเป็นความจริง
นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการบินไทย จะกลับมาบินได้เมื่อไรนั้นอยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำธุรกิจของการบินไทย แต่มาจากปัจจัยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงยังวางแผนการบินไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสายการบินไทยสไมล์ นั้นตนไม่ทราบ เพราะเป็นคนละบริษัทกัน หน้าที่ของตนรับผิดชอบเฉพาะการบินไทยเท่านั้น โดยงานที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือต้องจัดการเรื่องรายรับ-รายจ่าย ยอดเงินคงเหลือ สรุปยอดเจ้าหนี้ เพื่อจะได้จัดกลุ่มเจ้าหนี้ถูกแล้วเดินหน้าเจรจาต่อไป
“ระหว่างนี้ยังไม่ต้องรอให้ศาลสั่ง ระหว่างนี้เราต้องทำงานและต้องเริ่มติดต่อเจ้าหนี้แล้ว ให้เจ้าหนี้เขาสบายใจว่าเราไม่ได้มาถ่วงเวลา เราเจตนาชำระหนี้ เราต้องการฟื้นฟูกิจการ แล้วเราก็ต้องอาจต้องหารือกับเจ้าหนี้ด้วย ในระหว่างรอวันที่ 17 ส.ค. 2563 ที่ศาลจะไต่สวน อีกด้านคือต้องตรวจสอบรายละเอียดบริษัท คือตอนนี้เราต้องทำ 2 อย่าง 1.บริหารงานปกติ เช่น ดูแลพนักงาน บริหารบริษัท ปัญหานั่นนี่ อนุมัติเรื่องนั้นเรื่องนี้ ที่มันไม่ขัดกับกฎหมายฟื้นฟูกิจการ 2.เตรียมการสำหรับเรื่องฟื้นฟูกิจการ เรื่องที่ต้องใช้ดำเนินการกับทางศาล” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการลดเงินเดือนพนักงานนั้น หากพนักงานไม่ยอมก็ไม่ต้องลด เป็นมาตรการสมัครใจ อย่างไรก็ตาม ตนมีข้อสังเกตว่า พนักงานการบินไทยนั้นมีหลายระดับ แบ่งเป็นระดับสูงหรือผู้บริหาร ประมาณ 30 กว่าคน ส่วนที่เหลือคือระดับล่างกับระดับทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้บริหาร ซึ่งมีอยู่หลักหมื่นคน เงินเดือนขั้นต่ำของพนักงานจะอยู่ที่ไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยการหักจะเป็นแบบขั้นบันได เช่น เงินเดือนไม่เกิน 2 หมื่นบาทหักร้อยละ 10 หรือ เงินเดือนตั้งแต่ 2-6 หมื่นบาทหักร้อยละ 15 เป็นต้น
ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากหากดูที่ผู้บริหารระดับสูงที่แม้จะหักถึงร้อยละ 50 แต่ก็ยังมีเงินเดือนเหลือถึง 2 แสนบาท ในขณะที่พนักงานระดับล่างที่เงินเดือน 2 หมื่นบาท หักร้อยละ 10 จะเหลือเงินเดือนเพียง 18,000 บาท คำถามคือแล้วพนักงานกลุ่มนี้จะอยู่ได้อย่างไร โดยตนเคยย้ำไปแล้วว่า พนักงานคนหนึ่งไม่ควรมีเงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่นบาท เพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการดูแลทั้งตนเองและครอบครัว อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายอื่นที่น่าจะสามารถตัดลดลงเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูพนักงานได้
“ผมยกตัวอย่างในรายการอื่นล่าสุดของเดือน เม.ย. 2563 รายการค่าใช้จ่ายอื่นที่จะไปหัก 430 ล้าน ในนี้มันมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะไปหมดเลย พอมาดู ผมยกตัวอย่างค่าเช่ารถเดือน เม.ย. 2563 ทำไมมันสูงกว่าเดือน ม.ค. 2563 ทั้งที่ไม่ได้ทำธุรกิจ แต่ผมก็ยังไม่ทราบ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเปิดเผยได้ ค่าเช่าอาคารสำนักงานก็สูงขึ้น มันสูงขึ้นได้อย่างไร ผมก็ดีใจที่บอร์ดทุกคนเห็นด้วย ก็ยึดแนวนี้ คุณเอาอย่างนั้นก็ไป แต่ต้องสมัครใจนะ อันนี้ก็ไม่เป็นการผิดกฎหมาย” นายพีระพันธุ์ ระบุ
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวอีกว่า พนักงานที่เงินเดือนไม่เกิน 2 หมื่นบาท มีอยู่ประมาณ 2,100 คน ต่อให้หักมาคนละ 2,000 บาท รวมแล้วก็ได้เพียง 4 ล้านกว่าบาท สู้ไปบริหารจัดการเงินส่วนอื่นแล้วนำมาซื้อใจพนักงานดีกว่า เพราะอย่างไรเสียการบินไทยก็ต้องอาศัยคนเหล่านี้มาฟื้นฟูกิจการ หากพนักงานไม่มีใจจะทำงานแล้วจะทำอย่างไร ต้องเริ่มต้นด้วยการเห็นใจเขาก่อน ความยุติธรรมไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขแต่อยู่ที่ใจ ถ้าใจคนเขารู้สึกว่ามีความชอบธรรมเป็นธรรม เขาก็จะทำงานอยู่กับเรา ถ้าไม่เริ่มทุกอย่างที่ใจเราก็ไม่มีคนทำงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี